นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหารและหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในการแถลงข่าวการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมเปิดตัวผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ที่ทรู ดิจิทัล ปาร์ค เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม
นายพีรธน กล่าวว่า สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แฟนบอลชาวไทยจะได้รับชมอย่างเต็มอรรถรส ตลอด 3 ฤดูกาล เพราะว่าทรูวิชั่นส์เป็นผู้ใรห้บริการเพย์ทีวีเจ้าเดียวที่ได้รับลิขสิทธิ์นี้ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสด, รีรัน และไฮไลท์ ครบทั้ง 380 แมตช์ ขณะเดียวกันยังมีการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ครบทุกช่องทางอีกด้วย เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแฟนบอลยุคใหม่ สามารถรับชมได้ทุกเวลา
“หลังจาก 6 ปีที่ผ่านมาซึ่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษไม่ได้อยู่ในมือของทรูวิชั่นส์ ทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์แฟนบอลได้อย่างเต็มที่ แต่ในปัจจุบันด้วยช่องทางที่มากขึ้นจะทำให้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เข้าถึงแฟนบอลได้มากขึ้น”
นายพีรธน กล่าวต่อว่า โดยในส่วนของช่องทางการรับชมนั้น สามารถชมผ่านทรูวิชั่นส์ได้ครบทั้ง 380 นัด ผ่านช่องทรูพรีเมียร์ลีกเอชดี ที่เปิดขึ้นใหม่ 5 ช่องและทรูสปอร์ตเอชดี2-3 นอกจากนี้ยังมีแอพลิเคชั่น ทรูไอดี ที่สามารถชมได้มากกว่า 100 นัด แม้ไม่เป็นสมาชิก ขณะที่ฟรีทีวี ทีเอ็นเอ็น จะมีรายการข่าวและไฮไลท์การแข่งขันต่างๆ และทรู4ยู จะเป็นรายการไลฟ์สไตล์ วาไรตี้ ที่เกี่ยวกับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นอกเหนือจากการถ่ายทอดสดฟุตบอลแล้ว ยังจะมีรายการต่างๆ ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย โดยจะมีการนำเอาผู้นำแฟนบอลของทีมต่างๆ มาเป็นทีมผู้บรรยายด้วย
“จาก 6 ปีก่อน สถิติการเข้าถึงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอยู่ที่ราวๆ 2 ล้านคนทั่วประเทศไทย จากการเป็นสมาชิกกับทรูวิชั่น แต่ในปีนี้ สามารถเข้าถึงทุกคนได้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาชิกของทรูวิชั่นส์ เพียงแค่มีแอพลิเคชั่นทรูไอดี ดังนั้นเชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงคนไทยได้มากกว่า 10 ล้านคน”
นายพีรธน กล่าวปิดท้ายว่า นอกเหนือจากการถ่ายทอดสดนั้น ครั้งนี้ยังได้มีผู้สนับสนุนรายใหญ่ ได้แก่ ทรู คอร์ปอเรชั่น, สิงห์ คอร์เปเรอชั่น, ซีพี ออลล์, เอ.พี.ฮอนด้า, ซีพีเอฟ และสยามแมคโคร ซึ่งพร้อมทำแคมเปญการตลาดจัดจอยักษ์เดินสายให้ได้รับชมทั่วประเทศอีกด้วย
โดยการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 จะประเดิมสนามนัดแรกในเกม “ฟรายเดย์ไนท์” คืนวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม (เช้าวันที่ 10 สิงหาคม) เวลา 02.00 น. ระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบัานพบกับ “นกขมิ้น” นอริช ซิตี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ในส่วนของฟุตบอลรายการอื่นๆ ทั้งกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี, ลาลีก้า สเปน และลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบีอินสปอร์ต กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อให้ได้มีสัญญาณถ่ายทอดสดผ่านทางทรูวิชั่นส์ต่อไป
