‘โซลชาร์’ โวย ‘ทิม ครูล’ ยืนนอกเส้นเยอะจนเซฟ 2 จุดโทษ – ชี้ ‘ป๊อกบา’ พักอีกนาน

Photo / Getty Images

โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจถึงการพลาด 2 จุดโทษของลูกทีม ในเกมที่พลพรรคผีแดงบุกชนะนอริช ซิตี้ 3-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามแคร์โรว์ โร้ด เมื่อคืนวันที่ 27 ตุลาคม ว่าเป็นเพราะทิม ครูล มือกาวนอริชนั้นยืนออกมานอกเส้นประตูมากเกินไป ซึ่งผิดกฏและเชิ้ตดำควรให้ยิงใหม่ทั้ง 2 ครั้งด้วยซ้ำ

เกมนี้ แมนฯยูได้วีเออาร์ตัดสินให้จุดโทษถึง 2 ครั้ง โดยหนแรกเกินขึ้นในนาทีที่ 27 เมื่อดาเนียล เจมส์ หลุดทะลุเข้ากรอบเขตโทษก่อนโดนเบียดล้ม ที่ถึงแม้จะไม่ชัดเจน แต่วีเออาร์ก็ยังท็อปฟอร์มแจกจุดโทษให้แบบงงๆ และเป็นมาร์คัส แรชฟอร์ด ซัดเรียดไปทางซ้ายมือตัวเอง ติดเซฟทิม ครูล ที่พุ่งตะครุบได้ดีไม่มีกระฉอก กระทั่งนาทีที่ 43 แมนฯยูได้จุดโทษหนที่ 2 จากจังหวะที่เฟร็ด ยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษไปติดแขนของท็อดด์ แคนท์เวลล์ ที่ยกแขนขึ้นมาบล็อก คราวนี้อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล สับไกไปทางขวามือตัวเอง แต่ติดเซฟของทิม ครูล ที่พุ่งปัดถูกทางอีกครั้ง

แต่แมนฯยู ยังสามารถเก็บชัยชนะได้จากการทำประตูของสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (นาที 21) , แรชฟอร์ด (นาที 30) และมาร์ซิยาล (นาที 73) แต่พลาดเก็บคลีนชีตเนื่องจากเสียประตูให้นอริช ตีไข่แตกนาที 88 จากโอเนล เอร์นานเดซ ซึ่งนับเป็ยชัยชนะเกมเยือนครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกของแมนฯ ยู นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

Advertisement

โซลชาร์ กล่าวถึงสาเหตุที่แมนฯยูพลาดจุดโทษทั้ง 2 ครั้งในเกมนี้ว่า “ไม่คิดว่าลูกแรกจะเป็นจุดโทษเลย แต่ครั้งที่ 2 เราสมควรได้จริงๆ เพราะนักเตะนอริชยกมือขึ้นมาชัดเจน แต่ทั้ง 2 ลูกที่เรายิงพลาดนั่น จริงๆ ต้องได้ยิงใหม่ทั้งหมด เพราะผู้รักษาประตูยืนออกมาจากเส้นประตูก่อนยิงชัดเจน แต่ทิม ครูล ก็เก่งมากจริงๆ ในการเซฟจุดโทษ ส่วนการยิงพลาดก็เป็นเรื่องน่ากังวล คุณย่อมคิดว่าการได้จุดโทษต้องเปลี่ยนเป็นสกอร์ให้ได้ มากกว่าที่จะพลาดถึง 4 หนจาก 6 ครั้งหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเราก็ต้องฝึกซ้อมกันต่อไป”

นอกจากนี้ โซลชาร์ เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของปอล ป๊อกบา มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสว่า น่าจะต้องพักรักษาตัวยาวไปถึงเดือนธันวาคม เพราะการบาดเจ็บข้อเท้าของเขาต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู นอกจากนี้ลุค ชอว์, เนมานย่า มาติช ก็ยังหมดสิทธิช่วยทีม รวมถึงเอริก ไบญี่ ที่ยังอยู่ในขั้นตอนรักษาอาการเจ็บเข่าตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น

ทั้งนี้ จากการทำประตูของแรกของแม็คโทมิเนย์ในเกมนี้ ทำให้แมนฯยู ไนเต็ด เป็นสโมสรแรกที่ยิงแตะ 2,000 ประตูในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่น 1992-93 โดยมาร์ค ฮิวจ์ส คือนักเตะคนแรกที่ยิงให้ผีแดงยุคพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1992 ส่วนอาร์เซน่อลคือทีมอันดับ 2 ที่ยิงเยอะสุดในยุคพรีเมียร์ลีกคือ 1,860 ประตู ขณะที่ลิเวอร์พูลเป็นอันดับ 3 ด้วยจำนวน 1,797 ประตู ส่วนที่ 4 เชลซี 1,793 ประตู

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image