โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แขวะ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่ามักเน้นเล่นเกมรับเป็นหลัก จนทำให้เก็บผลการแข่งขันที่ดีได้ในการเจอกับทีมที่เก่งกว่า หลังจบเกมที่มูรินโญ่พาสเปอร์สบุกแพ้แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 4 ธันวาคม ซึ่งนับเป็นการกลับมายังโอลด์ แทรฟฟอร์ดครั้งแรกของมูรินโญ่ นับตั้งแต่โดนเด้งพ้นนายใหญ่ผี เมื่อปลายปี 2018
เกมนี้ แมนฯยู ขึ้นนำก่อน 1-0 จากมาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าเด็กปั้นที่บรรจงสับไกในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ส่งบอลพุ่งส่ายๆ เสียบเสาแรกในนาทีที่ 6 แต่หลังจากนั้นเดเล่ อัลลี่ เก็บบอลจังหวะสองพร้อมเดาะข้ามแรวรับเข้าไปซัดจ่อๆในกรอบ 6 หลา ให้สเปอร์สตีเสมอเป็น 1-1 ในนาที 39 ก่อนที่สุดท้ายแรชฟอร์ดจะทิ้งตัวได้จุดโทษ (มุสซ่า ซิสโซโก้ สะกิด) และลุกขึ้นมาซัลโวตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 2 ของแมนฯยู ช่วยให้ต้นสังกัดเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ
“ฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มักคว้าผลการแข่งขันที่ดีในการเจอกับทีมชั้นยอดเสมอ ทั้งเชลซี, ลิเวอร์พูล หรือ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นเพราะผีแดงไม่กลัวที่จะต้องเน้นเล่นการตั้งรับเป็นหลัก เวลาเจอกับทีมใหญ่หรือทีมคู่แข่งที่ต้องการครองบอลมากกว่า เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เข้าทางในแท็กติกของปีศาจแดง” มูรินโญ่ ระบุ
ทั้งนี้ มูรินโญ่ กล่าวว่า จุดเปลี่ยนของเกมนี้คือการที่มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงจุดโทษให้แมนฯยู ขึ้นนำ 2-1 ในช่วงต้นครึ่งหลัง เพราะนั่นเป็นประตูที่ไม่ควรจะเสียเลย แต่สเปอร์สเองก็ไม่ตื่นตัว เผลอให้คู่แข่งทุ่มเร็วและเป็นแรชฟอร์ดลากลุยเข้ามาในกรอบเขตโทษจนเป็นงานยากในเกมรับ และแรชฟอร์ดก็ฉลาดพอที่จะรอให้นักเตะสเปอร์ส เข้าไปสัมผัสตัว (รอล้ม)
หลังจบเกมนี้ สเปอร์ส มี 20 คะแนนเท่าเดิม หล่นลงมาอยู่ที่ 8 ของตาราง ส่วนแมนฯยู เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งที่ 6 ของตาราง ก่อนที่ทีมบิ๊กซิกซ์อย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่อยู่อันดับ 10 และมี 19 คะแนน จะลงเตะในกับไบรท์ตันในคืนนี้
