เบิร์กไวจ์น ซัดเปิดตัว! ‘สเปอร์ส’ ปราบ ‘แมนฯ ซิตี้’ 10 คน 2-0 พุ่งที่ 5 เขี่ยผีแดงหล่นที่ 7

Photo - Getty Images

“ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เปิดบ้านเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 หลังทีมเยือนเหลือผู้เล่น 10 คนช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม คืนวันที่ 2 กุมภาพันธ์

จังหวะสำคัญๆ ในเกมนี้ เริ่มจากนาที 12 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกความเร็วสูงของแมนฯ ซิตี้ ที่แตะบอลยาว ดันไปย่ำใส่ข้อเท้าของเดเล่ อัลลี่ แนวรุกสเปอร์สที่มาฉกบอล ส่งผลให้มีการเช็ควีเออาร์ว่าสมควรเป็นใบแดงหรือไม่ สุดท้ายไมค์ ดีน เชิ้ตดำควักแค่เพียงใบเหลืองเท่านั้น

นาทีที่ 36 แซร์จ ออริเย่ แบ๊กขวาสเปอร์ส ไปหวดขาเซร์คิโอ้ อากูเอโร่ หัวหอกเรือใบสีฟ้าจนล้มกลิ้งในกรอบเขตโทษ โดยเดิมทีไมค์ ดีน ผู้ตัดสินปล่อยให้เกมไหลต่อ พร้อมกับทำท่าว่าเป็นการเข้าสกัดที่บอล แต่ทว่าสุดท้ายได้รับสัญญาณจากห้องวีเออาร์ จนมีการเป่าย้อนให้จุดโทษจากจังหวะดังกล่าวในนาทีที่ 38 แต่ทว่าอิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์แมนฯ ซิตี้ ยิงไปทางขวามือตัวเองติดเซฟของอูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูสเปอร์ส ก่อนบอกกระฉอกมาทำให้โยริสตามมาหวังตะปบบอล พร้อมๆ กับที่สเตอร์ลิ่ง วิ่งเข้ามาหาบอลจนล้มกลิ้ง คาบเกี่ยวกับที่โยริสดึงมือหลบ ทำให้นักเตะทั้งสองทีมเกิดการโต้เถียงโวยกันไปมา ส่งผลให้มีการเช็ควีเออาร์อีกครั้งว่าเป็นการฟาวล์และจุดโทษหรือไม่ สุดท้ายเหตุการณ์ชุลมุนนี้ก็ไม่เป็นจุดโทษครั้งที่สองของเกมแต่อย่างใด

นาทีที่ 60 แมนฯ ซิตี้ เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เนื่องจากโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ๊กซ้ายของทีมโดนใบเหลืองที่สองจากการไปทำฟาวล์ใส่แฮร์รี่ วิงส์ ตัดการสวนกลับบริเวณกลางสนาม

Advertisement

นาทีที่ 63 สเปอร์สได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากสตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ปีกใหม่ป้ายแดงชาวเนเธอร์แลนด์วัย 22 ปี ที่พักอกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนตวัดยิงส่งบอลพุ่งตุงตาข่ายเสียบเสาอย่างสวยงาม

นาที 71 ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ มิดฟิลด์ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาแค่ 1 นาที แผลงฤทธิ์จ่ายบอลทะลุช่องให้ซน ฮึง มิน แนวรุกชาวเกาหลีใต้ พลิกสับไกบริเวณกรอบเขตโทษแฉลบเท้าของแฟร์นันดินโญ่เบียดเสาเข้าประตู

จบเกมนี้ สเปอร์ส เก็บเพิ่มเป็น 37 คะแนนจาก 25 นัด กระโดดขึ้นาอยู่อันดับ 5 ของตาราง ตามหลังอันดับ 4 อย่างเชลซี 4 คะแนน ส่วนเชฟฟิลด์ที่มี 36 คะแนนหล่นลงมาที่ 6 ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ดที่มี 35 แต้มร่วงมาอยู่ที่ 7 เช่นเดียวกับวูล์ฟแฮมป์ตันที่มี 35 คะแนนแต่เป็นรองประตูได้เสียหล่นลงมาอยู่ที่ 8

Advertisement

ส่วนแมนฯซิตี้ หยุดอยู่ที่ 51 คะแนน รั้งที่ 2 ตามเดิม แต่ตามหลังลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงห่างถึง 22 แต้ม ซึ่งแม้แมนฯ ซิตี้ชนะรวดทั้งหมดจากนี้ พวกเขาจะมีแต้มสูงสุดได้ที่ 90 คะแนน นั่นหมายความว่าลิเวอร์พูลซึ่งมี 73 แต้ม ต้องการเพียง 18 คะแนนจาก 13 เกมที่เหลือก็จะการันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ทันที

ผลฟุตบอลคู่อื่นๆ ที่แข่งจบแล้ว

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เบิร์นลี่ย์ เสมอ อาร์เซน่อล 0-0

กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี
ยูเวนตุส ชนะ ฟิออเรนติน่า 3-0
เอซี มิลาน เสมอ เวโรน่า 1-1
อตาลันต้า เสมอ เจนัว 2-2
ลาซิโอ ชนะ สปาล 5-1

ลาลีก้า สเปน
เลกาเนส ชนะ รีลโซเซียดาด 2-1
เออิบาร์ เสมอ รีล เบติส 1-1
แอธเลติก บิลเบา แพ้ เคตาเฟ่ 0-2

บุนเดสลีก้า เยอรมัน
โคโลญจน์ ชนะ ไฟร์บวร์ก 4-0

ลีกเอิง ฝรั่งเศส
นีซ ชนะ โอลิมปิก ลียง 2-1
แอฟเซ เม็ตซ์ ชนะ แซงต์ เอเตียน 3-1

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image