| ที่มา | สกู๊ปหน้า 1 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ มีช่วงเวลาที่เหมือนเทพนิยายและฝันร้ายในช่วง 5 ปีหลัง พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-2016 แบบที่ทั้งโลกต้องปรบมือให้ เพราะการที่ทีมระดับกลางๆ จะก้าวไปเป็นแชมป์ลีกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อเจอความสุขที่สุด ความทุกข์ที่สุดของแฟนบอลจิ้งจอกสยามก็ตามมา
วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรที่เป็นที่รักของแฟนบอลและชาวเมืองเลสเตอร์ ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก เสียชีวิตในปี 2019 โลกฟุตบอลที่เคยร่วมฉลองกับเลสเตอร์ ร่วมร้องไห้และปลอบประโลมจิ้งจอกสยามไม่ขาด
ไม่กี่วันที่ผ่านมา รอยยิ้มและการเฉลิมฉลองกลับมาสู่เลสเตอร์อีกครั้ง เมื่อทีมจิ้งจอกสยามสร้างความสุดยอดคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 137 ปีของสโมสร เป็นชัยชนะเหนือทีมที่วิชัยเคยประกาศว่าจะต้องเป็นเจ้าของทีมแล้วชนะทีมนี้ให้ได้ คือ เชลซี
เมื่อ 16 ปีก่อน วิชัยที่ซื้อที่นั่งวีไอพีของเชลซีมาตลอด เพราะเป็นแฟนบอลสิงห์บลู รวมทั้งเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนป้ายโฆษณาข้างสนามด้วย แต่กลับมีเรื่องกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่สนาม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ประธานกลุ่มคิงเพาเวอร์อย่างมาก ถึงขั้นประกาศว่า “วันหนึ่งเราจะซื้อทีม แล้วเอามาสู้กับเชลซีให้ได้”
ปี 2010 วิชัยซื้อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยมูลค่า 39 ล้านปอนด์ ถึงแม้ว่าตอนนั้นทีมยังวนเวียนอยู่ในลีกแชมเปี้ยนชิพ หรือลีกรองจากพรีเมียร์ลีก แต่ด้วยการทุ่มเทงบประมาณและการบริหารงาน รวมทั้งการทำทีมที่
สุดยอดของไนเจล เพียร์สัน เลสเตอร์คว้าแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพกลับขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกได้ หลังจบฤดูกาล 2013-2014 หลังจากตกชั้นไป 7 ฤดูกาลเต็ม
การกลับมาสู่ลีกสูงสุดของเลสเตอร์ ไม่มีนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์อยู่ในทีม ไม่มีใครคิดว่า เจมี่ วาร์ดี้ จะกลายมาเป็นกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ริยาด มาห์เรซ จะก้าวขึ้นไปเป็นปีกที่อันตรายที่สุดคนหนึ่งในลีก หรือแม้แต่ เวส มอร์แกน จะเป็นกัปตันทีมที่ได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลถัดมา
ซีซั่น 2014-2015 จบอันดับ 14 หนีรอดตกชั้นตามเป้าหมายของทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นมา
ฤดูกาล 2015-2016 เทพนิยายของเดอะฟ๊อกซ์ เริ่มต้นจากการได้นักเตะอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์โนเนมจากคานส์ ในฝรั่งเศส ชินจิ โอกาซากิ กองหน้าญี่ปุ่นจากไมนซ์ คริสเตียน ฟุคส์ จากชาลเก้ รวมทั้งดัน เบน ชิลเวลล์ แบ๊กซ้ายขึ้นมาจากทีมเยาวชน
นักเตะเหล่านี้เล่นร่วมกับกำลังสำคัญที่มีอยู่ได้อย่างกลมกลืน ด้วยการมี เคลาดิโอ รานิเอรี่ เป็นผู้จัดการทีม เลสเตอร์เดินหน้าถลุงคู่แข่งไปเรื่อยๆ จบ 38 นัด ชนะ 23 เสมอ 12 และแพ้ไปเพียง 3 นัด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างอาร์เซน่อล 10 คะแนน เป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่สำคัญซีซั่นนั้นเลสเตอร์ไม่แพ้เชลซี ชนะเกมในบ้าน 2-1 และไปยันเสมอได้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ 1-1
วันเวลาอันหอมหวานจบลงในเวลาไม่นาน ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น เลสเตอร์เกาะอยู่โซนสีแดงที่มีโอกาสจะตกชั้น รานิเอรี่ถูกปลดให้ เคร็ก เชกสเปียร์ มาเป็นกุนซือขัดตาทัพแทน เลสเตอร์จบอันดับ 12 เข้ารอบ 8 ทีมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ฤดูกาล 2017-2018 โคล้ด ปูแอลล์ โค้ชชาวฝรั่งเศสเข้ามาทำทีม แต่ด้วยมาตรฐานนักเตะที่มีเลสเตอร์ไม่ใช่ทีมที่ต้องมาดิ้นรนหนีตกชั้นอีกแล้ว ปีนั้นจบอันดับ 9 ในลีก ไม่ใกล้เคียงแชมป์ใดๆ
ฤดูกาล 2018-2019 ดูเหมือนจะเป็นซีซั่นธรรมดาๆ ที่ไม่หวือหวาและไม่ต้องดิ้นรนของเลสเตอร์ แต่วันที่ 27 ตุลาคม 2019 มีข่าวร้ายว่า เฮลิคอปเตอร์ของวิชัยตกไม่ไกลจากสนามคิงเพาเวอร์ หลังจบเกมที่เสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ไม่กี่ชั่วโมงถัดมามีการยืนยันผู้เสียชีวิต ประธานสโมสรเลสเตอร์เสียชีวิต อัยยวัฒน์ ศรีวัฒประภา ลูกชายต้องขึ้นมารับตำแหน่งประธานกลุ่มคิงเพาเวอร์ พร้อมทั้งเป็นประธานสโมสรคนใหม่
อัยยวัฒน์ยืนยันว่า จะเดินตามแนวทางที่พ่อวางไว้ในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้แฟนบอลเลสเตอร์เป็นเหมือนคนในครอบครัว ยกระดับสโมสร พัฒนาเมือง และร่วมทำเพื่อสังคม ที่สำคัญพาทีมกลับไปยืนในจุดที่ดีที่เคยอยู่มาอีกครั้ง
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาแทนที่โคล้ดปูแอล ในช่วงปลายฤดูกาล 2018-2019 ถือเป็นการเริ่มกลับมาบินสูงอีกครั้งของจิ้งจอกสยาม เพราะในฤดูกาล 2019-2020 จบอันดับ 5 ของลีกแบบฉิวเฉียด เกือบจะได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง
ซีซั่น 2020-2021 เลสเตอร์ของร็อดเจอร์สเกาะกลุ่มหัวตารางมาตลอด อยู่ในอันดับ 2-3-4 มาเรื่อยๆ มีโอกาสที่ดีที่จะได้ไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปในฤดูกาลหน้า
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลเดอะฟ๊อกซ์รอมาหลายปี คือ การได้ฉลองแชมป์กันอีกครั้ง ก็เป็นจริงแล้ว เลสเตอร์กรุยทางเข้ารอบลึกในศึกเอฟเอคัพ เอาชนะได้ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เซาธ์แฮมป์ตัน ในรอบลึกๆ เข้าไปเจอกับเชลซี ในรอบชิงชนะเลิศ
คำพูดของวิชัยที่เคยบอกว่า “วันหนึ่งเราจะซื้อทีม แล้วเอามาสู้กับเชลซีให้ได้” ย้อนกลับมาอีกครั้ง
ผลลงเอยด้วยชัยชนะของจิ้งจอกสยาม 1-0 จากฝีเท้าของยูรี่ ติเลอมองส์ เลสเตอร์คว้าแชมป์เอฟเอคัพครั้งแรกในการก่อตั้งสโมสรมา 137 ปี
ความสำเร็จครั้งนี้ ทุกคนในสโมสรมอบให้อดีตประธานวิชัยเป็นคนแรก เพราะความสำเร็จในวันนี้มาจากการสร้างแนวทางที่ดีของประธานผู้ล่วงลับ
โดยเฉพาะการประกาศกร้าวว่า จะซื้อทีมมาชนะเชลซีให้ได้ เมื่อ 16 ปีก่อน
