อาร์เตต้าเดือดต่อเรื่อง VAR ไม่หวั่นโดนเอฟเอส่งหนังสือจี้ถาม
มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซน่อล ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีวิจารณ์ปัญหาการใช้งานระบบวิดีโอช่วยตัดสิน (VAR) อย่างรุนแรงหลังเกมที่ทีมปืนใหญ่บุกพ่ายนิวคาสเซิลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องออกมายืนต่อหน้ากล้องและให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน ซึ่งที่ตนพูดไปหลังเกมวันนั้นก็เป็นอย่างนั้น เป็นการสะท้อนมุมมองในเกมแบบเปิดอก ตนรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเล่น เกี่ยวกับการตัดสินใจของผู้ตัดสิน
อาร์เตต้ากล่าวย้ำว่า เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องปกป้องลูกทีม สโมสร และคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของทีม หลังจากนี้ก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่พูดลอยๆ ตามความรู้สึก แต่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ถ้ามีปัญหาก็ต้องกล้าพูดออกมา ไม่ใช่เก็บมันไว้ เพราะถ้าเก็บใส่ลิ้นชัก สักวันก็จะเน่าเสีย ถ้ามีปัญหาก็ต้องมาคุยกัน หาทางแก้ไข
ทั้งนี้ หลังเกมดังกล่าว อาร์เตต้าให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์เดือดว่า การที่กรรมการต้องใช้ VAR ดูถึง 3 เหตุการณ์ที่นำไปสู่ประตูชัยของนิวคาสเซิลนาน 4 นาที ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นเรื่องน่าละอายและอับอายของวงการฟุตบอล ซึ่งต่อมา สโมสรอาร์เซน่อลออกแถลงการณ์สนับสนุนความคิดเห็นของอาร์เตต้าอย่างเต็มที่ พร้อมระบุว่านี่เป็นความผิดพลาดของ VAR อีกครั้ง เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และเรียกร้องให้องค์กรผู้ตัดสิน (PGMOL) วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยกระดับมาตรฐานการทำหน้าที่ รวมถึงออกมาอธิบายและขอโทษในความผิดพลาดด้วย
หลังจากนั้น สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้ส่งหนังสือถึงอาร์เตต้าและอาร์เซน่อล ให้ส่งคำชี้แจงในเรื่องนี้ โดยสื่อระบุว่าการที่เอฟเอทำแบบนั้นเป็นขั้นตอนเบื้องต้นก่อนตั้งข้อหาอาร์เตต้าและอาร์เซน่อลเรื่องวิจารณ์กรรมการ
ในประเด็นนี้ อาร์เตต้ายอมรับว่า ไม่รู้ล่วงหน้าเรื่องแถลงการณ์ของสโมสร ในมุมมองของตนถือเป็นเรื่องดีแต่ไม่ได้คาดหวังว่าสโมสรจะทำแบบนั้น สโมสรมีทางเลือกหลายอย่าง แต่ก็ออกแถลงการณ์แบบนั้น รู้สึกขอบคุณมาก เชื่อว่านักเตะและทุกคนก็รู้สึกแบบเดียวกัน นั่นแสดงให้เห็นว่าเราต่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และพร้อมรับทุกสถานการณ์ด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นจะยิ่งทำให้ทีมผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกัน
