สกู๊ปพิเศษ : ส่องโอกาสเข้ารอบ 10 กลุ่ม ศึก ‘ยูโร 2020’ รอบคัดเลือก

ภาพ Reuters

จับสลากแบ่งกลุ่มกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับศึกฟุตบอล ยูโร 2020 รอบคัดเลือก

สำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในอีก 2 ปีข้างหน้านั้นพิเศษกว่าครั้งอื่นๆ เนื่องจากเป็นวาระครบรอบ 60 ปี ของการแข่งขัน ทำให้สมัยยังอยู่ในตำแหน่ง มิเชล พลาตินี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) คนเก่า ผลักดันรูปแบบการแข่งขันแบบเฉพาะกิจ ให้ทั้งทวีปได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพ จนสรุปสุดท้ายจะมี 12 เมือง ใน 12 ประเทศเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน

การแข่งขันรอบคัดเลือกนั้น จะคัดจาก 55 ชาติสมาชิกยูโรเหลือ 24 ประเทศ โดยชาติเจ้าภาพทั้งหมดจะไม่ได้รับการยกเว้นให้ได้โควต้าอัตโนมัติเหมือนกับทุกที เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปได้ที่เจ้าภาพอาจจะไม่ได้ร่วมแข่งขันกับเขาด้วยก็ได้

จากทั้งหมด 55 ชาติ จะแบ่งการแข่งขันรอบคัดเลือกเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 ทีม ทีมที่คว้าแชมป์และรองแชมป์กลุ่มจะได้สิทธิเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายอัตโนมัติ รวม 20 ทีม ไปรวมกับทีมแชมป์ลีกของทัวร์นาเมนต์ใหม่แกะกล่อง ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก อีก 4 ทีม

Advertisement

หลังจากทราบผลการจับสลากแบ่งสายการแข่งขันรอบคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว เดลี่ เทเลกราฟ สื่อดังเมืองผู้ดีได้ลองวิเคราะห์สถานการณ์ของแต่ละกลุ่มดูว่า ทีมไหนน่าจะมีโอกาสเข้ารอบมากน้อยอย่างไรบ้าง

ภาพ Reuters

กลุ่มเอ : อังกฤษ, เช็ก, บัลแกเรีย, มอนเตเนโกร, โคโซโว
พิจารณาจากคู่แข่งแล้ว ยังไงก็ไม่ใช่ปัญหาในการเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มของทีมสิงโตคำราม ส่วนสาธารณรัฐเช็ก จากชื่อชั้นผลงานในอดีต ยังไงก็น่าจะได้ลุ้นติดสอยห้อยตามเข้ารอบไปด้วย

กลุ่มบี : โปรตุเกส, ยูเครน, เซอร์เบีย, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก
แม้จะมีลิทัวเนียกับลักเซมเบิร์กเป็นตัวแจกแต้มแจกประตู แต่การโคจรมาพบกันระหว่างโปรตุเกส ยูเครน กับเซอร์เบีย ถือว่าเป็นงานหินพอสมควร และ 3 ทีมนี้ต้องลุ้นเข้ารอบกัน แต่โปรตุเกสในฐานะแชมป์เก่ายูโร 2016 น่าจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปได้โดยไม่ต้องลุ้นถึงหยดสุดท้าย

Advertisement

กลุ่มซี : เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, ไอร์แลนด์เหนือ, เอสโตเนีย, เบลารุส
ความที่อินทรีเหล็ก อดีตแชมป์โลก 4 สมัย หลุดไปอยู่ในโถ 2 ทำให้หลายๆ ทีมหวาดๆ ไม่อยากร่วมกลุ่มด้วย เพราะถึงผลงานของทีมในช่วงหลังๆ จะย่ำแย่จนน่าใจหาย รวมถึงโดนทีมกังหันลมเขี่ยตกรอบยูฟ่า เนชั่นส์ลีก มาหมาดๆ แต่ด้วยมาตรฐานทีมยังไงก็ยังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอยู่ดี เพราะงั้นกลุ่มนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด แข้งดัตช์น่าจะคว้าแชมป์กลุ่มได้ ส่วนแข้งดอยต์ชก็ตามเข้าไปเป็นอันดับ 2

กลุ่มดี : สวิตเซอร์แลนด์, เดนมาร์ก, ไอร์แลนด์, จอร์เจีย, ยิบรอลตาร์
ตอนแรกไอร์แลนด์เหนือโดนจับไปอยู่กลุ่มซี แต่ต้องขยับมาเนื่องจากมีเจ้าภาพอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันมากเกินไป สำหรับสถานการณ์กลุ่มนี้ สวิตเซอร์แลนด์เพิ่งโชว์ฟอร์มคว้าแชมป์กลุ่มยูฟ่า เนชั่นส์ลีกมา ส่วนเดนมาร์กก็มักจะอันตรายเสมอในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ จึงน่าจะเป็นสองทีมนี้ที่มีภาษีดีที่สุด

กลุ่มอี : โครเอเชีย, เวลส์, สโลวาเกีย, ฮังการี, อาเซอร์ไบจาน
หากไม่นับทีมตาหมากรุกซึ่งเพิ่งทำเซอร์ไพรส์คว้าตำแหน่งรองแชมป์โลกปีล่าสุด ทีมที่เหลือน่าจะลุ้นแย่งโควต้ากันสนุก โดยกุนซือ ไรอัน กิ๊กส์ ของทีมชาติเวลส์น่าจะพาทีมคนหนุ่มซึ่งมีซุป’ตาร์อย่าง แกเร็ธ เบล ฝ่าฟันไปได้

ภาพ Reuters

กลุ่มเอฟ : สเปน, สวีเดน, นอร์เวย์, โรมาเนีย, หมู่เกาะแฟโร, มอลตา
อย่างไรเสีย กระทิงดุก็ไม่น่าพลาดตำแหน่งแชมป์กลุ่มไปได้ ขณะที่อันดับ 2 น่าจะเป็นการแย่งกันระหว่างสวีเดนกับนอร์เวย์ สองชาติสแกนดิเนเวีย โดยมีโรมาเนียเป็นตัวสอดแทรก โดยถ้าพิจารณาจากผลงานในอดีตที่ผ่านมา สวีเดนน่าจะมีภาษีดีที่สุด

กลุ่มจี : โปแลนด์, ออสเตรีย, อิสราเอล, สโลวีเนีย, มาซิโดเนีย, ลัตเวีย
กลุ่มนี้เดาค่อนข้างยาก โปแลนด์ในฐานะทีมวางน่าจะเข้ารอบได้ ส่วนที่เหลือมาตรฐานค่อนข้างสูสีกัน แม้ว่าออสเตรียจะดูมีโอกาสมากที่สุด แต่ผลงานการเล่นรอบคัดเลือกบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ กลับไม่ค่อยสู้ดีนัก

กลุ่มเอช : ฝรั่งเศส, ไอซ์แลนด์, ตุรกี, อัลเบเนีย, มอลโดวา, อันดอร์รา
ด้วยศักดิ์ศรีและมาตรฐานของแชมป์โลก 2018 ฝรั่งเศสน่าจะตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายได้ไม่ยาก ขณะที่ไอซ์แลนด์ก็พิสูจน์ตัวเองในบอลถ้วยใหญ่ช่วงหลังๆ แม้ว่าจะมีสะดุดบ้างหลังจบบอลโลก เชื่อว่ายักษ์น้ำแข็งจะเป็นอีกทีมที่เข้ารอบต่อไปแม้ว่าจะไม่ง่ายนักก็ตาม

กลุ่มไอ : เบลเยียม, รัสเซีย, สกอตแลนด์, ไซปรัส, คาซัคสถาน, ซาน มาริโน
เบลเยียมน่าจะคว้าแชมป์กลุ่มแบบไร้ปัญหา ส่วนรัสเซียก็โชว์ฟอร์มได้ดีในบอลโลกที่ผ่านมา ทำให้ความหวังของสกอตแลนด์ค่อนข้างริบหรี่ไม่น้อย

กลุ่มเจ : อิตาลี, บอสเนีย, ฟินแลนด์, กรีซ, อาร์เมเนีย, ลิคเตนสไตน์
หลังจากไม่ผ่านรอบคัดเลือกลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 อิตาลีก็ค่อยๆ กลับมายืนหยัดใหม่ได้อีกครั้ง และผลการจับสลากที่ออกมาน่าจะทำให้ขุนพลอัซซูรี่ผ่านเข้ารอบได้ไม่ยาก ส่วนโควต้าที่เหลือ บอสเนียมีนักเตะดีๆ หลายคน แต่ก็ประมาทฟินแลนด์ กรีซ รวมถึงอาร์เมเนีย ไม่ได้เช่นกัน

เรียกว่าจาก 10 กลุ่มที่วิเคราะห์มา เรื่องพิจารณาทีมแชมป์นั้นไม่น่าจะยากมากนัก ยกเว้นบางกลุ่มที่มาตรฐานของ 2-3 ทีมค่อนข้างสูสีกัน ที่น่าลุ้นมากกว่าคือการแย่งอันดับ 2 ของกลุ่มนี่เอง เพราะงานนี้ไม่มีการลุ้นเพลย์ออฟของทีมอันดับ 3 ให้แก้ตัวแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image