แฟร้งก์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม “สิงห์โตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดใจว่า การที่เชลซีพลิกนรกไล่เจ๊าอายแอ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 4-4 ทั้งที่ตกเป็นรอง 1-4 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช เมื่อคืนวันที่ 5 พฤศติกายน ถือเป็นหนึ่งในค่ำคืนที่ระทึกใจที่สุดตลอดเส้นทางชีวิตบนวงการฟุตบอล
เกมนี้ อาแจ็กซ์ ขึ้นนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ แทมมี่ อับราฮัม แต่นาทีที่ 5 เชลซี ไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากจุดโทษของ จอร์จินโญ่ จากนั้น อาแจ็กซ์ ยิง 3 ลูกขึ้นนำห่าง 4-1 จาก ควินซี่ โพรเมส นาทีที่ 20, เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ทำเข้าประตูตัวเองนาทีที่ 35, ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค นาทีที่ 55
แต่สิงห์บลูส์ฮึดยิงไล่มา 2-4 จากเซซาร์ อัซปิลิกวยต้า นาทีที่ 63 และทีมเยือนโดนใบเหลืองสองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม 2 คน คือ แดลี่ย์ บลินด์ นาทีที่ 68 และโจเอล เวลต์แมน นาทีที่ 69 ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซี ไล่ตีเจ๊าระทึกได้จากจุดโทษลูกที่ 2 ในเกมนี้ของ จอร์จินโญ่ นาทีที่ 71 และปิดท้ายไล่ตีเสมอสำเร็จ 4-4 จาก รีซ เจมส์ นาทีที่ 74
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
แลมพาร์ดกล่าวว่า ผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ชนะ แต่การไล่ตีเสมอได้นั้นถือเป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมมากๆ ซึ่ง ในชีวิตนี้ตนเจอกับเกมที่ระทึกหรือค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมมากมาย ซึ่งเกมนี้ก็นับเป็น 1 ในแมตช์ที่บ้อบอสุดสุดเลย ชื่นชมในสปิริตของลูกทีมจริงๆ เรพาะเป็นสิ่งที่ง่ายมากหากจะถอดใจยอมแพ้ตั้งแต่ช่วงที่สกอร์ตามหลัง 1-4 แต่ทีมของเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะเรามีจอร์จินโญ่, มัตเตโอ โควาซิช, วิลเลี่ยน รวมถึงอัซปิลิกวยต้า ที่คอยเป็นแกนหลักให้กับทีมจนตีเสมอได้สำเร็จ
ส่วนอาการของเมสัน เมาท์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ถูกหามออกจากสนามและเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 60 แลมพารืดเผยว่าเป็นเพราะเมาท์มีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ซึ่งตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้มาก และได้แต่หวังว่าจะไม่หนักหนาเท่าไหร่
