เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เซ็นเตอร์แบ๊กของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลายเป็นกองหลังคนแรกที่คว้ารางวัลแข้งแห่งปี “โกล 50” ในขณะที่เมแกน ราปิโน่ กองหน้าและกัปตันฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา สอยรางวัลในฝ่ายหญิงไปครอง
สำหรับฟาน ไดค์ ที่คว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมฝ่ายชายไปครองนั้น เขาสามารถเอาชนะลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าเดอะแบกของบาร์เซโลน่า ที่ตามมาเป็นที่ 2 ในขณะที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หัวหอกเพื่อนร่วมทัพหงส์แดงได้อันดับ 3 ส่วนคริสเตียโน่ โรนัลโ้ด้ จากยูเวนตุสมาเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ซาดิโอ มาเน่ ดาวยิงจากลิเวอร์พูล
“ผมภูมิใจมากๆ กับการได้เป็นนักเตะอันดับ 1 ของรางวัลโกล 50 ประจำปี 2019 ซึ่งการได้รับการยอมรับเช่นนี้ท่ามกลางเหล่านักเตะชั้นยอดมากมาย เป็นสิ่งที่วิเศษมากๆ” ฟาน ไดค์ ระบุ
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
ทั้งนี้ ฟาน ไดค์ ทำผลงานเป็นคีย์แมนให้กับลิเวอร์พูล ในการผงาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2018-19 รวมถึงพาหงส์แดงจบอันดับ 2 พรีเมียร์ลีก ด้วยคะแนนสูงถึง 97 แต้ม โดยเป็นแพ้ตลอดซีซั่นแค่นัดเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ฟาน ไดค์ ยังพาเนเธอร์แลนด์ ทีมชาติบ้านเกิดเข้าถึงรอบชิงยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ด้วย แต่น่าเสียดายที่พ่ายให้โปรตุเกส 0-1
ส่วนเมสซี่ยังฟอร์มแจ่มกับการเป็นเดอะแบกที่บาร์เซโลน่า ทำไป 51 ประตูจาก 50 นัดในทุกรายการตลอดฤดูกาล 2018-19 แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการคว้าโทรฟี่ของโกล
ด้านรางวัลของฝ่ายหญิง เมแกน ราปิโน่ หัวหอกจอมเก๋าของสหรัฐอเมริกา คว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปี จากผลงานพาทีมสาวสหรัฐคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยซ้อน (สมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์ทีม)
นอกจากนี้ราปิโน่ ยังเป็นนักเตะยอดเยี่ยม และรางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกฝ่ายหญิง ด้วยผลงานซัลโวไป 6 ประตู โดยราปิโน่เปิดใจว่าถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รางวัลนี้ไปครอง
โดยรางวัลดังกล่าว คือรางวัลที่ทีมงานและนักข่าวของ “โกล” จากทั่วโลกได้จัดอันดับ 50 นักฟุตบอลที่ผลงานโดดเด่นที่สุดในรอบ 12 เดือน ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ซึ่งประเมินจากความยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ ผลงานในแมตช์สำคัญๆ รวมถึงความสำเร็จทั้งในสโมสรและทีมชาติ