ปรับกฎแฮนด์บอลหลังโดนวิจารณ์แยะ เล็งเปลี่ยนรายละเอียดกฎออฟไซด์ถ้าล้ำแค่แขน
คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) ในฐานะองค์กรที่กำหนดกฎ กติกา ของการแข่งขันฟุตบอลสมัยใหม่ แถลงเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ว่า ไอเอฟเอบีได้ปรับเปลี่ยนกฎเกี่ยวกับแฮนด์บอล โดยจังหวะที่บอลโดนมือโดยบังเอิญแล้วนำไปสู่การทำประตูหรือสร้างโอกาสทำประตูให้เพื่อนร่วมทีม ไม่ถือว่าเป็นจังหวะฟาวล์อีกต่อไป โดยให้เหตุผลว่า ปัจจุบันการตีความจังหวะแฮนด์บอลขาดมาตรฐานที่ชัดเจน
ตัวอย่างล่าสุดที่เกิดขึ้นคือเกมที่ฟูแล่มแพ้ให้ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ โดยมีจังหวะที่จอช มาจา ทำประตูได้ แต่กรรมการไม่ให้เป็นประตู เนื่องจากจังหวะก่อนหน้านั้น เดวินสัน ซานเชซ ผู้เล่นสเปอร์ส เตะเคลียร์บอลไปโดนแขนของมาริโอ เลมิน่า ผู้เล่นฟูแล่ม
อย่างไรก็ตาม ถ้านักเตะฝ่ายรุกทำประตูเพราะบอลไปโดนแขนหรือมือโดยบังเอิญ หรือใช้มือหรือแขนสัมผัสบอลโดยตรงก่อนทำประตู ยังถือว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลอยู่
ทั้งนี้ คาดว่าพรีเมียร์ลีกและลีกลูกหนังอังกฤษจะนำกฎแฮนด์บอลใหม่มาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป
ไอเอฟเอบีระบุด้วยว่า กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเรื่องจังหวะล้ำหน้า หลังจากมีเสียงสะท้อนเกี่ยวกับการตีความ โดยอาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซืออาร์เซน่อลในฐานะนักวิจารณ์บอลชื่อดัง เรียกร้องว่า ไม่ควรเป่าว่านักเตะล้ำหน้าถ้าอวัยวะส่วนที่สามารถใช้ทำประตูได้อยู่ในระดับเดียวกับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามตัวรองสุดท้าย กล่าวคือ ถึงแขนจะกางออกในตำแหน่งที่ล้ำหน้า แต่เนื่องจากแขนไม่ใช่ส่วนที่จะใช้ทำประตูได้ ก็ไม่ควรเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า
ตัวอย่างล่าสุดคือเกมที่เชลซีเฉือนชนะลิเวอร์พูล โดยจังหวะที่ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าเชลซีส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย เมื่อกรรมการพิจารณาวีเออาร์แล้วไม่เป่าให้เป็นประตู เนื่องจากแขนของแวร์เนอร์อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แม้ว่าตัวของเขาจะยืนเท่ากับกองหลังหงส์แดงก็ตาม
สำหรับการเปลี่ยนแปลงกฎล้ำหน้าใหม่นั้น คาดว่าจะเริ่มทดลองใช้ในลีกล่างของจีนก่อน ถ้าประสบความสำเร็จ จึงทดลองใช้ในอังกฤษ
นอกจากนี้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะทดลองใช้เทคโนโลยีกึ่งอัตโนมัติเพื่อเช็กจังหวะล้ำหน้า โดยส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยผู้ตัดสินทันทีที่จับจังหวะล้ำหน้าได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ช่วยผู้ตัดสินว่าจะยกธงหรือไม่
