เคาต์ดาวน์ ทู ‘รัสเซีย 2018’ : กลุ่มจี ‘อังกฤษ-เบลเยียม’ ไม่ประมาท=ไม่พลาด

กลุ่มจี ใน ฟุตบอลโลก 2018 นี้อาจจะจัดได้ว่าเป็นกลุ่มที่แฟนบอลคงให้ความสนใจกันพอสมควร เพราะมีทีมที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนบอลชาวไทยอยู่นั่นก็คือ “สิงโตคำราม” ทีมชาติ อังกฤษ นั่นเอง

ทีมสิงโตคำรามชุดนี้เลือกใช้บริการของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ซึ่งก่อนหน้านี้คุมทีมยู-21 ขึ้นมาคุมชุดใหญ่แทน รอย ฮอดจ์สัน ที่อำลาทีมหลังจากจบบอลยูโร 2016 ไป และเขาก็ทำผลงานในรอบคัดเลือกได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการชนะถึง 8 เสมอ 2 ไม่แพ้ใครเลย เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มทิ้งห่าง สโลวาเกีย ถึง 8 คะแนน

อังกฤษผ่านมาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 15 แล้ว แต่เคยได้แชมป์ครั้งเดียวคือปี 1966 ที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งหลังจากนั้นไม่เคยไปไกลกว่ารอบรองชนะเลิศเลย แถมหนก่อนที่บราซิลยังตกรอบแรกด้วยการไม่ชนะใครเลยอีกด้วย

Advertisement

ครั้งนี้ เซาธ์เกตเลือกผู้เล่นที่เรียกได้ว่าประสบการณ์ในรายการใหญ่ๆ เช่นนี้ยังน้อย คนที่ติดทีมชาติมากที่สุดชุดนี้ก็คือ แกรี่ เคฮิลล์ ที่ลงเล่นเพียง 59 นัดเท่านั้น แต่ก็เน้นด้วยดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้ดีในปีที่ผ่านมาอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เดเล่ อัลลี่ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยความหวังสูงสุดของทีมคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แฮร์รี่ เคน ดาวซัลโวและกัปตันทีมนั่นเอง

 

อย่างไรก็ตาม ทีมที่เป็นตัวเต็งสำหรับกลุ่มนี้ก็คือ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ซึ่งครั้งนี้นำทีมมาโดย โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือชาวสแปนิช และก็เป็นอีกทีมที่มีผลงานในรอบคัดเลือกยอดเยี่ยม ชนะ 9 เสมอ 1 ไม่แพ้ใครเช่นกัน แถมมีแต้มนำห่าง กรีซ รองแชมป์กลุ่มถึง 9 คะแนน

Advertisement

เบลเยียมจัดเป็นทีมเก่าแก่แห่งยุโรปทีมหนึ่ง ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้เป็นหนที่ 13 แล้ว เพียงแต่ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขานั้นไปได้เพียงอันดับ 4 เท่านั้น ขนาด 4 ปีก่อนที่จัดได้ว่าเป็นชุดที่ดีที่สุดชุดหนึ่ง พวกเขายังหยุดผลงานเพียงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

ทีมชุดนี้ยังคงนำมาด้วยตัวหลักๆ อย่างเช่น เอเด็น อาซาร์, แว็งซองต์ กอมปานี, เควิน เดอ บรอยน์ แต่ก็ยังมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ที่ติดทีมเป็นครั้งแรกอย่างเช่น ยูริ เทียเลมองส์ ดาวรุ่งจาก โมนาโก และ มิตชี่ บัตชัวยี่ กองหน้าที่ฟอร์มร้อนกับ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในครึ่งฤดูกาลหลังที่ผ่านมา

 

ทีมต่อมาแฟนบอลอาจจะคุ้นชื่อกันอยู่บ้าง นั่นก็คือ ตูนิเซีย ทีมจากทวีปแอฟริกา ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอในรอบคัดเลือก ซึ่งเป็นการคัมแบ๊กกลับมาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี โดยผลงานที่ผ่านมานั้นเป็นเหมือนทีมไม้ประดับเพราะว่าไม่เคยผ่านรอบแรกได้แม้แต่ครั้งเดียว

 

ผู้เล่นของตูนิเซียชุดนี้กระจายตัวกันเล่นอยู่ทั้งในฝรั่งเศสกับซาอุดีอาระเบียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผู้เล่นที่คนไทยน่าจะรู้จักกันมาที่สุดคงจะเป็น วาห์บี้ คาซรี่ กองหน้าของ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ที่ตอนนี้ถูกปล่อยไปให้กับ แรนส์ ทีมในลีกเอิง ยืมตัวอยู่นั่นเอง

 

 

ทีมสุดท้ายของกลุ่มนี้เป็นน้องใหม่ของฟุตบอลโลกหนนี้อย่าง ปานามา ทีมจากโซนคอนคาเคฟ ที่หักปากกาเซียนด้วยการคว้าอันดับ 3 ของโซนคอนคาเคฟ คว้าตั๋วรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติมา ถีบให้ ฮอนดูรัส ต้องไปเล่นเพลย์ออฟแล้วตกรอบด้วยน้ำมือของ ออสเตรเลีย

ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของปานามาคือ บลาส เปเรซ กองหน้าวัย 37 ปี ซึ่งรับใช้ชาติมากกว่า 117 นัด ทำไป 43 ประตู นอกจากนี้ยังมี ฟิลิเป้ บาลอย กองหลังกัปตันทีม และ กาเบรียล โกเมซ กองกลางที่รับใช้ทีมชาติมามากที่สุดของชุดนี้

กลุ่มนี้หากมองดูเผินๆ อาจจะบอกว่าทั้งเบลเยียมและอังกฤษเจองานไม่หนักมาก เพราะทั้งตูนิเซียและปานามาเองก็เป็นทีมที่ดูไม่มีพิษสงอะไรมากนัก

แต่สิ่งที่ทั้งเบลเยียมและอังกฤษต้องระวังให้ดีคือพวกเขาเป็นทีมที่ถึงทัวร์นาเมนต์จริงๆ แล้วมักจะออกทะเล หรือไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ดังนั้นหากประมาทก็อาจจะเจ็บปวดได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วด้วยความเหนือกว่าของผู้เล่น เชื่อว่า 2 ทีมยักษ์ใหญ่ของกลุ่มนี้จะผ่านเข้ารอบได้แน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image