‘สมยศ’ยันไม่รีบหาโค้ชยู-23 ไม่ต้องโปรไฟล์เลิศขอแค่ทำงานได้

ความคืบหน้าเรื่องการสรรหาโค้ชทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะต้องมีโปรแกรมสำคัญในการลงเล่นฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2562 และจะต้องเล่นในชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และคัด 3 ทีมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น

หลังจากที่บรรดาเอเยนต์ส่วนตัวของโค้ชหลายคนส่งโปรไฟล์ให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พิจารณา ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย​ฯ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวทางสมาคมฟุตบอลฯ ได้ดำเนินการอยู่ตลอด กำลังพิจารณาโปรไฟล์ที่ส่งเข้ามาตามความเหมาะสม ทั้งเรื่องข้อตกลง เงื่อนไขต่างๆ จะรีบร้อนแต่งตั้งไม่ได้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าโค้ชที่ส่งโปรไฟล์เข้ามานั้นส่วนใหญ่เป็นโค้ชต่างชาติทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า ทางสมาคมฯเปิดกว้างเสมอจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติก็ได้ ขอเพียงสามารถทำงานภายใต้เงื่อนไขของสมาคมฯได้ ก็สามารถเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดยู-23 ได้ทั้งสิ้น

“ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีโปรไฟล์ดี เพราะบางครั้งในรูปแบบที่อยากได้ อย่างเช่นคนที่เคยพาทีมชาติในชุดเล็กไปฟุตบอลโลก หรือพาทีมยู-23 ไปโอลิมปิกเกมส์ แต่ถ้าเกิดไม่สามารถรับเงื่อนไขของสมาคมฯได้ ก็ร่วมงานกันไม่ได้”

Advertisement

พล.ต.อ.ดร.สมยศ กล่าวต่อถึงการค้นหาผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคต่อว่า ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่เช่นกัน แต่อยากให้ใจเย็นๆ เพื่อให้ได้คนที่ดีและมีความสามารถเหมาะกับงานที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะต้องใช้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ บางคนที่ติดต่อไปไม่เต็มใจทำในตำแหน่งนี้ อยากทำตำแหน่งอื่น ก็ต้องมาพูดคุยกัน

“ทั้งตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยยู-23และผอ.ฝ่ายเทคนิค ทั้งสองตำแหน่งไม่ได้มีเดดไลน์ว่าจะต้องหาได้เมื่อไหร่ อย่างชุดยู-23 ตอนนี้ไม่มีโปรแกรมแข่งขันอะไรรออยู่ ยังมีเวลาที่จะพิจารณา เพราะบางคนก็ยังติดคุมทีมอยู่ทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นต้องให้โอกาสได้พิจารณาว่าอยากจะมาทำงานกับเราหรือไม่” ประมุขลูกหนังไทยกล่าวปิดท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image