“บอย” ฉัตรชัย บุตรพรม เซฟจุดโทษในนาทีสุดท้ายพา “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะ “บลูแมชชีน” บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0 ในการแข่งขัน “โตโยต้า ลีก คัพ 2018” นัดชิงชนะเลิศ ที่ทรู สเตเดียม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม
เกมนี้ อเล็กซานเดอร์ กามา นายใหญ่ของเชียงรายจัดผู้เล่นลงสนามเต็มสูบ นำมาโดยฉัตรชัย บุตรพรม นายทวารทีมชาติไทย ขณะที่แนวรุกก็วางโรซิมาร์ อมานซิโอ กับวิลเลี่ยม เฮนริเก้ ลงเป็นกองหน้าคู่
ส่วนทางฝั่งบางกอกกล๊าส “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด นั้นไม่สามารถใช้งานฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางตัวเก่งเนื่องจากติดโทษแบน ทำให้ต้องส่งจักรกฤษ ลาภตระกูล ลงมาเล่นแทน แต่ทางด้านของอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ผ่านความฟิตมีชื่อเป็นตัวจริงในเกมนี้
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้การแข่งขันนั้นต้องเลื่อนออกไป 1 ชั่วโมง 15 นาที ก่อนที่ผู้ควบคุมการแข่งขันจะให้เริ่มแข่งขันได้
ครึ่งแรกทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุก-รับ แต่จังหวะสุดท้ายยังดูขาดๆ เกินๆ จนยังไม่มีใครสามารถทำประตูได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
จากนั้นครึ่งหลังนาทีที่ 65 กลายเป็นเชียงรายที่ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะโต้กลับและเป็น วิลเลียม เอ็นริเก้ ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟของนริศ ทวีกุลกระเด้งมาเข้าทางซ้ำอีกครั้งเข้าไปให้เชียงรายนำก่อน 1-0
บีจีเริ่มปรับทัพด้วยการส่งศิวกร แสงวงศ์ ลงไปเล่นแทนดาเนียล โตติ รวมถึง ดาวิด บาลา ที่ลงมาเล่นแทนอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ และเกือบได้ประตูจากจังหวะที่สุรชาติ สารีพิมพ์ เก็บบอลได้ก่อนปั่นด้วยขวาแต่บอลยังไม่ผ่านมือฉัตรชัย บุตรพรม
จนกระทั่งท้ายเกมบางกอกกล๊าสมาได้จุดโทษจากจังหวะที่แนวรับเชียงรายทำแฮนด์บอล แต่ทว่าอาเรียล โรดริเกซยิงจัดโทษไปติดเซฟของฉัตรชัย บุตรพรม ทำให้ชวดได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด
จบเกม เชียงราย ยูไนเต็ด เอาชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี ไป 1-0 คว้าแชมป์โตโยต้า ลีกคัพ ฤดูกาล 2018 ไปครองได้สำเร็จ และเป็นแชมป์สมัยแรกของสโมสรอีกด้วย
