ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่เตรียมลงแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย “เอเชี่ยนคัพ 2019” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยจะประเดิมสนามเกมรอบแรก นัดแรก กลุ่มเอ พบกับทีมชาติอินเดีย ทีมอันดับ 97 ของโลก ที่อัล นาห์ยาน สเตเดียม กรุงอาบูดาบี ในวันที่ 6 มกราคมนี้ เวลา 20.30 น.
ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ลงอุ่นเครื่องแบบปิด กับทีมชาติโอมาน โดย “โค้ชมิโล” มิโลวาน ราเยวัช ได้จัดลูกทีมเป็น 2 ชุด ให้ลงเล่นครบทุกคน ก่อนจะพ่ายไป 0-2 ปิดท้ายการอุ่นเครื่องก่อนเข้าทัวร์นาเมนต์แบบที่ไม่สู้ดีนัก
“แคมป์” สรรวัชญ์ เดชมิตร กองกลางทีมชาติไทย เจ้าของรางวัลแอสซิสต์สูงสุดในศึก “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” ที่ผ่านมา กล่าวว่า เป็นเกมที่ดี แม้ว่าผลอาจจะออกมาไม่เป็นใจ แต่ทีมก็ได้ทดสอบหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องเกมรุก-เกมรับ และความสัมพันธ์ในทีม กับผู้เล่นชุดเก่ากับชุดใหม่ที่เข้ามาเสริม ดังนั้นมองว่าทีมยังได้ประโยชน์อยู่
“แฟนบอลคงไม่พอใจกับผลการแข่งขัน ซึ่งผมเข้าใจ แต่อีกมุมหนึ่ง ผมอยากให้ทุกคนมองว่า อย่างน้อยการพ่ายแพ้ในวันนี้ มันก็บอกอะไรเราหลายอย่าง เช่นจุดบกพร่องที่เรายังมีอยู่ ดังนั้น พอถึงวันแข่งขันจริง แน่นอนว่า ฟุตบอลมันผิดพลาดกันได้อยู่แล้ว แต่ผมก็เชื่อว่า ในขณะที่เรารู้แล้ว เราก็จะมีความผิดพลาดน้อยลง และเวลาที่เหลือหลังจากนี้ เราก็จะพยายามทำงานให้หนัก เพื่อให้ทีมพร้อมที่สุด”
กองกลางจากแบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องปรับในทีมน่าจะเป็นความสัมพันธ์ในการเล่น ต้องเล่นให้ลงตัวกว่านี้ แต่ผลที่ออกมาไม่ได้ทำให้เสียความมั่นใจ คิดในแง่ดีการแพ้ในวันนี้เพื่อเรียนรู้และเป็นธรรมดาของกีฬาที่มีแพ้ มีชนะ
“สิ่งที่อยากบอกแฟนบอลคือนักฟุตบอลไม่มีใครชอบความพ่ายแพ้ แต่ก็ต้องเข้าใจพื้นฐานความจริงว่าการแข่งขันในระดับนี้ มันไม่มีอะไรที่ง่ายอยู่แล้ว และถ้าขอของขวัญปีใหม่ได้ ผมอยากขอแค่คำว่า สู้ๆจากทุกคนครับ ซึ่งน่าจะพิมพ์ง่ายกว่าคำด่า หรือคำวิจารณ์อื่นๆ พวกเราจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และพิสูจน์ให้เห็นว่า ประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในชาติที่มีศักยภาพด้านฟุตบอลเหมือนกัน” สรรวัชญ์ กล่าวปิดท้าย
สำหรับฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2019 ไทยอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับเจ้าภาพ ยูเออี, อินเดีย และบาห์เรน โดยจะคัดเอา 2 ทีมแชมป์และรองแชมป์กลุ่ม จาก 6 กลุ่ม และรวมกับอีก 4 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
