‘บังยี’ ยันเองไม่พร้อมกลับมานั่งนายกสมาคมฟุตบอล

ศาลกีฬาโลก(ซีเอเอส) ได้มีคำพิพากษายกเลิกโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลของ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตกรรมการบริหารสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) และอดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้นายวรวีร์ถูกลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอล 5 ปี จากการละเมิดข้อบังคับของฟีฟ่า ช่อ 17, 41 จากการปลอมแปลงเอกสารในการแก้ไขข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯ และถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ตัดสินให้มีความผิดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากคดีที่สโมสรพัทยา เอฟซี ได้ยื่นฟ้องตั้งแต่ พ.ศ. 2560 ก่อนที่จะมีการยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าไม่มีความผิด ทำให้ฟีฟ่ามีมติลดโทษแบนเหลือ 3 ปี 6 เดือน เมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว

เมื่อไม่นานมานี้ นายวรวีร์ได้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมให้ศาลกีฬาโลก และได้มีการตัดสินว่า อดีตบอร์ดฟีฟ่าชาวไทยไม่มีความผิดตามข้อบังคับข้อ 17 ในเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร อย่างไรก็ตามยังมีความผิดในข้อบังคับข้อ 41 ส่งผลให้มีการยกเลิกแบน และลดเงินค่าปรับจากเดิม 10,000 ฟรังก์สวิส เหลือครึ่งหนึ่ง คือ 5,000 ฟรังก์สวิส

นายวรวีร์กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และขอขอบคุณศาลกีฬาโลกที่ตัดสินในสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้รับความเป็นธรรมแล้ว รวมทั้งขอบคุณศาลอุทธรณ์ของไทยที่ตัดสินก่อนหน้านี้ให้เป็นผู้บริสุทธิ์ด้วย ถ้าถามว่าตอนนี้มีความคิดจะกลับมาลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯอีกหรือไม่ ส่วนตัวพร้อมจะทำงานเพื่อส่วนรวมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยอมรับว่ายังไม่คิดที่จะกลับไปทำหน้าที่ตรงนั้น

Advertisement

“อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมมีความคิดอยากเข้าไปทำงานกีฬาในระดับชาติตามนโยบายที่คิดไว้โดยเฉพาะการวางรากฐานกีฬาในระดับรากฐานเพื่อนำไปสู่ความแข็งแกร่งในอนาคตมากกว่า และอยากเชิญชวนนักธุรกิจที่มีเงินให้มาช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมกีฬาพื้นกันให้มากเพราะกีฬาช่วยแก้ปัญหาสังคมได้และสามารถพัฒนาไปสู่กีฬาอาชีพทำให้มีฐานะมั่นคงได้ ส่วนการที่ศาลตัดสินพ้นผิดจะทำให้มีผลดีต่อการเลือกตั้งหรือไม่ เรื่องนี้คิดว่าประชาชนคงเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผม ที่สำคัญผมได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จากการตัดสินของศาลกีฬาโลกและศาลไทยในครั้งนี้” บังยีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image