“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 ที่โรงแรมอัลมีรอซ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม โดยมี “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, “บอย” ฉัตรชัย บุตรพรหม, “ตั๊ก” สุมัญญา ปุริสาย นักเตะทีมชาติไทยร่วมแถลง
โดยการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นที่ช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน โดยโปรแกรมในรอบรองชนะเลิศ วันที่ 5 มิถุนายน คู่แรก เวลา 15.30 น. ทีมชาติอินเดีย ทีมอันดับ 101 ของโลก พบ ทีมชาติกือราเซา อันดับ 82 ของโลก คู่สอง เวลา 19.45 น. ทีมชาติไทย อันดับ 114 พบกับ ทีมชาติเวียดนาม อันดับ 98 ของโลก ผู้ชนะจะเข้าไปชิงชนะเลิศวันที่ 8 มิถุนายน
ภายในงานได้มีการเปิดตัวชุดแข่งใหม่ของทีม “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่จะใช้สำหรับการแข่งขันคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 โดยเฉพาะ ภายใต้แนวคิด “ทหารของพระราชา” สื่อถึงความแข็งแกร่งดุจนักรบทีมชาติไทย ใช้โลโก้ช้างศึกสีทอง ประทบลงบนเสื้อสีเหลืองทองพิมพ์ลายเกราะทหาร โดยจัดทำเพียง 10,000 ตัว พร้มอป้ายรุ่นติดหมายเลขตามลำดับอีกด้วย
พล.ต.อ.ดร.สมยศ กล่าวว่า ฟุตบอลคิงส์คัพเป็นรายการที่สำคัญ ได้รับการรับรองเอ-แมตช์ ทุกนัด มีผลต่อการคิดคะแนนฟีฟ่าแรงค์กิ้ง ซึ่ง 4 ทีมที่มาล้วนแต่อันดับโลกสูงกว่าไทยทั้งนั้น ไทยจะได้ประสบการณ์ที่ดีจากการแข่งขันรายการนี้
“คิงส์คัพเป็นถ้วยที่มีความสำคัญต่อจิตใจ เชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นของนักกีฬาทุกคนจะกลับมาคว้าแชมป์รายการนี้อีกครั้งให้ได้ ยิ่งถ้าได้กำลังใจจากแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ทั้งในสนามและหน้าจอทีวี แม้จะเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่า ก็เชื่อว่ไทยจะเป็นแชมป์ได้” บิ๊กอ๊อดกล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องสนามแข่งขันที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะเริ่มในเดือนกันยายน หากราชมังคลากีฬาสถาน กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงนั้น ประมุขลูกหนังไทย กล่าวว่า ตอนนี้มีหลายสนามที่สนใจทั้งสนามสมโภชน์ 700 ปี เชียงใหม่, สนามติณณสูลานนท์ จ.สงขลา หรือสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้สนามแห่งใด
ด้าน “โค้ชโต่ย” กล่าวว่า สำหรับการเจอทีมชาติเวียดนามก็ได้่มีการดูฟอร์มของคู่แข่งมาตลอด เชื่อมั่นว่าศักยภาพของนักเตะไทยนั้นพร้อมจะแสดงให้เห็นว่าใครคือเจ้าอาเซียนที่แท้จริง เรื่องการประกาศตัวผู้เล่น ก็จะประกาศวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ 35 คน ก่อนตัดให้เหลือ 23 คน ซึ่งจากการคุยกับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ก็มีการดูฟอร์มนักเตะทั้งไทยลีก และไทยลีก2 โอกาสเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่ฟอร์มดี และจะมีเซอร์ไพรส์ให้เห็นแน่นอน
“จริงๆ แล้วรายการนี้เจอใครก็ได้ เพราะศักยภาพนักเตะไทยเป็นแนวหน้าอยู๋แล้ว เชื่อว่ามีมาตรฐานที่ดีกว่า เราไม่เคยกลัวเวียดนาม เพราะถ้าจะก้าวข้ามอาเซียนจะต้องไม่กลัวชาติใดๆ ในอาเซียน เป้าหมายของไทยคือการขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำของเอเชียให้ได้ ส่วนเป้าหมายในรายการนี้ อยากคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะว่าเป็นปีมหามงคลของประเทศไทย อยากทำให้คนไทยมีความสุขให้ได้” ศิริศักดิ์ กล่าวปิดท้าย
“มุ้ย” ธีรศิลป์ กล่าวว่า ครั้งนี้มีโอกาสได้ลงเล่นเกมที่ 100 ในนามทีมชาติ ก็เป็นความรู้สึกที่พิเศษ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนตัวมองว่ารายการคิงส์คัพ มีความหมายกับคนไทย และนักฟุตบอลทีมชาติมากๆ เป็นถ้วยที่มีมานาน เก่าแก่ และศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งครั้งนี้ยังเป็นคิงส์คัพครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 10 ด้วย ก็จะทำทุกทางให้ถ้วยนี้ยังอยู่ที่ประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้บัตรเข้าชมการแข่งขันจะเปิดจำหน่ายให้กับช้างศึกเมมเบอร์ก่อนตั้งแต่วันที่ 10-15 พฤษภาคม สำหรับบุคคลทั่วไป เริ่มจองได้ 16 พฤษภาคมเป็นต้นไป
