“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงสนามนัดที่สอง พ่ายให้กับ “ซอคเกอร์รูส์” ออสเตรเลีย 1-2 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบแรก กลุ่มเอ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 11 มกราคม
จากผลงานในนัดแรก ไทย เอาชนะ บาห์เรน มาได้ 5-0 ขณะที่ ออสเตรเลีย เสมอกับ อิรัก 1-1 เกมนี้ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยึด 11 ตัวจริงมาจากนัดแรกทั้งหมด ในระบบ 4-2-3-1 นำมาโดย ผู้รักษาประตู กรพัฒน์ นารีจันทร์ แบ๊กซ้าย ทิตาธร อักษรศรี แบ๊กขวา มีโชค มหาศรานุกูล คู่เซนเตอร์ ชินภัทร์ ลีเอาะ กัปตันทีม จับคู่กับ ศฤงคาร พรมสุภะ กองกลางตัวรับ กฤษดา กาแมน กับ สรวิทย์ พานทอง แนวรุกซ้าย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แนวรุกขวา อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ แนวรุกกลาง สุภโชค สารชาติ กองหน้าตัวเป้า ศุภชัย ใจเด็ด
ส่วนฝั่งออสเตรเลียนั้น ปรับผู้เล่นถึง 4 ตำแหน่งจากเกมแรก โดยส่งกัปตันทีมตัวจริงอย่าง โธมัส เด็ง รวมถึงยาค็อป อิตาเลียโน่ กองหน้าจากมึนเช่นกลัดบัค ลงมาเป็นตัวจริง นอกจากนี้ยังมีตัวหลักๆ อย่าง ซาการี่ ดันแคน และโจชัว ลอว์ส ลงเล่นเป็นตัวจริงเช่นเดิม
เริ่มครึ่งแรกมาออสเตรเลียสามารถครองบอลได้ดีกว่า พยายามจะหาช่องเจาะเข้าทำในขณะที่แนวรับไทยยังตั้งเกมกันไม่ได้
แต่ทว่าพอไทยเริ่มได้ครองบอลมากขึ้น ก็มาได้ประตูออกนำในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่สุภโชคจ่ายให้ทิตาธร หลุดไปยิงจากด้านซ้ายของเขตโทษบอลพุ่งไปชนเสา แต่มาเข้าทาง อานนท์ ซ้ำไม่พลาดให้ไทยออกนำออสเตรเลีย 1-0
ช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 ไทยพลาดโดนตีเสมอจากจังหวะที่ออสเตรเลียตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนที่จะจ่ายทะลุช่องให้นิโคลัส ดากอสติโน่ หลุดเข้าไปยิงเสียบเสาไกล ให้ออสเตรเลียตีเสมอไทยเป็น 1-1 ซึ่งจังหวะนี้มีการเช็ควีเออาร์ว่าเป็นจังหวะฟาล์วหรือไม่ ก่อนผู้ตัดสินจะยืนยันว่าไม่ใช่ลูกฟาล์ว จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1
ครึ่งหลังออสเตรเลียถอดกองหลังอย่างโจชัว ลอวส์ ออก แล้วส่ง เดนิส เจนโร ซึ่งเป็นกองกลาง ลงมาเล่นแทน ขณะที่ไทยเล่นไปได้จนถึงนาทีที่ 62 ต้องเปลี่ยนตัวเอานันทวัฒน์ สวนแก้ว กับ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ลงมาเล่นแทน ศุภชัย และศุภณัฏฐ์ ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งคู่
เกมเป็นฝั่งออสเตรเลียที่ได้บุกมากกว่าจนมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่อเล็ก เกอร์บัคช์ หลุดไปทางซ้ายก่อนตบเข้ากลางให้ดากอสติโน่คนเดิมยิงเข้าประตูไปให้ออสเตรเลียนำ 2-1
นิชิโนะทิ้่งไพ่ใบสุดท้าย ส่ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ลงมาเล่นแทน สรวิทย์ แต่ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกมไทยแพ้ออสเตรเลีย 1-2
ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต บาห์เรน เสมอ อิรัก 2-2 ทำให้ตารางคะแนนในกลุ่มเอ ออสเตรเลียนำเป็นจ่าฝูงมี 4 คะแนน ตามมาด้วยไทย มี 3 คะแนน อิรัก มี 2 คะแนน และบาห์เรน มี 1 คะแนน
โดยสถานการณ์ในนัดสุดท้าย ถ้าหากไทยเอาชนะอิรัก จะผ่านเข้ารอบทันที หรือถ้าเสมอจะต้องลุ้นผลอีกคู่หนึ่งระหว่างออสเตรเลีย กับบาห์เรน แต่ถ้าหากแพ้จะตกรอบทันที
