นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพภายในประเทศทั้ง 4 ลีก ประจำฤดูกาล 2020 ที่ลิโด้ คอนเน็ค สยามสแควร์ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยมีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ, ผู้สนับสนุน และตัวแทนจากสโมสรเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก
นายศุภสิน กล่าวว่า ฤดูกาลนี้นับเป็นฤดูกาลที่ 24 สำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพในประเทศไทย ซึ่งเรามีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จากอันดับ 12-13 ของเอเชีย ไทยลีกสามารถก้าวขึ้นมาติดอันดับ 8 ของเอเชีย จนสามารถได้โควต้าเข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็น 2+2 ทีม โดยแชมป์ไทยลีก กับแชมป์ “ช้าง เอฟเอ คััพ” จะได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มทันที และอันดับ 2-3 ในไทยลีก จะได้เล่นในรอบเพลย์ออฟ ถือว่าเป็นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมที่ถ้าหากขาดการสนับสนุน ร่วมมือจากนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน, สโมสร, แฟนบอล และผู้สนับสนุน คงไม่สามารถมายืนอยู่ในจุดนี้ได้
นายศุภสิน กล่าวต่อว่า สำหรับฤดูกาลนี้ก็ยังคงความตื่นเต้นเอาไว้ นอกจากการแย่งแชมป์อย่างสนุกสุดมันแล้ว สโมสรจากประเทศไทยจะได้รับโอกาสไปเล่นในการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรอาเซียนอีกหนึ่งรายการ นอกจากนี้ไทยลีก 1 ก็จะมีการเปิดใช้ระบบวิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) อย่างเต็มรูปแบบทุกนัด ส่วนไทยลีก2 ก็จะเพิ่มการเพลย์ออฟเลื่อนชั้น โดยทีมแชมป์กับรองแชมป์จะได้เลื่อนชั้นทันที และอันดับ 3-6 จะมาเพลย์ออฟ เหย้า-เยือน เพื่อหาทีมสุดท้ายที่จะได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก1 ต่อไป
ขณะเดียวกันในไทยลีก3-4 ปีนี้จะเพิ่มในส่วนของโควต้านักเตะเยาวชนเพิ่มขึ้นมา ใน 11 ผู้เล่นตัวจริงจะต้องมีนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อย่างน้อย 2 คน และรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี อย่างน้อย 2 คน พร้อมกับไม่มีโควต้าอาเซียนแล้ว ทำให้นักเตะเยาวชนไทยจะได้รับโอกาสลงสนามเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้น เพิ่มทรัพยากรนักเตะไทยขึ้นมา
“ผมเชื่อว่าฟุตบอลไทยลีก 1-4 ฤดูกาล 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ จะเป็นปีที่สนุกที่สุดอีกปีหนึ่ง ให้สมกับแฟนบอลทุกคนตั้งตารอเลยทีเดียว”
สำหรับฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2020” (ไทยลีก1) และ เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก2) จะเปิดฉากฟาดแข้งกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นคู่แรก ส่วน ออมสิน ลีก โปร (ไทยลีก3) และ ออมสิน ลีก (ไทยลีก 4) จะเริ่มฟาดแข้งกันในวันที่ 15 กุมภาพันธ์
ด้าน “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา กองกลางทีมแชมป์เก่า “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า สภาพร่างกายตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เน้นเรื่องของการทำกายภาพทุกวัน คิดว่าต้นเดือนมีนาคมจะสามารถกลับมาลงสนามได้ ขณะที่เป้าหมายในฤดูกาลนี้ก็จะป้องกันแชมป์ไทยลีกเอาไว้ให้ได้ และจะทำผลงานในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ดีที่สุด
ขณะที่ผู้ท้าชิง ชิติพัทธ์ แทนกลาง จาก “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า ปีนี้ฟุตบอลไทยลีกคู่แข่งพัฒนาขึ้นมามาก แต่ตัวบุรีรัมย์เองก็พัฒนาเช่นกัน มันจะเป็นงานยากทุกเกมแน่นอน แต่ก็คิดว่ามาตรฐานของทุกทีมคงไม่เกินจากที่คาดกันเอาไว้ และจะทวงแชมป์กลับคืนมาให้ได้
