‘นิชิโนะ’ เตรียมฟันธงแผนบุก ‘ยูเออี’ พร้อมนำทัพใหญ่ลุย หวังได้วัคซีนก่อนบิน
หลังจากที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ประกาศชาติเจ้าภาพสนามกลางสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ที่เหลืออยู่ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยในกลุ่มจี ของ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะต้องไปเล่นกันที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งช้างศึกเหลือโปรแกรมอยู่ 3 นัด ได้แก่ พบอินโดนีเซีย วันที่ 3 มิถุนายน, พบยูเออี วันที่ 7 มิถุนายน และพบมาเลเซีย วันที่ 15 มิถุนายน นั้น
“เลขาโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศเจ้าภาพนั้น ทางสมาคมฯ ได้มีการเริ่มทำงานวางแผนมาแล้วระยะหนึ่ง โดยตอนนี้จะให้อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวญี่ปุ่น ได้ทำการวางแผน ว่าจะเดินทางไปเมื่อใด ต้องการอุ่นเครื่องหรือไม่ ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าน่าจะมีการแจ้งมาอย่างชัดเจน
“ด้วยความที่สถานการณ์ไม่ปกติ ดังนั้นการจะหาทีมอุ่นเครื่องจะเป็นเรื่องยาก เพราะเราไม่สามารถเชิญทีมต่างประเทศเข้ามา หรือจะเดินทางไปอุ่นเครื่องกับใคร ก็ต้องดูว่าจะเดินทางเข้ายูเออีได้หรือไม่ ข้อจำกัดตรงนี้ได้แจ้งทางนิชิโนะไปแล้ว ซึ่งนิชิโนะจะเป็นผู้วางแผนอีกครั้งหนึ่ง”
นายพาทิศ กล่าวต่อว่า กุนซือชาวญี่ปุ่นนั้นเพิ่่งจะพ้นการกักตัวหลังเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในวันที่ 13 มีนาคม โดยจะปล่อยให้พัก 1 วัน ดังนั้นน่าจะสักวันที่ 15-16 มีนาคม น่าจะมาสรุปแผนงานกัน แต่ทางทีมงานเองเริ่มติดต่อยูเออีเอาไว้บ้างแล้ว อยู่ที่นิชิโนะจะฟันธงแผนอีกที เพราะว่าเขาเป็นคนที่ละเอียดมากๆ จึงต้องให้ระบุมาว่าจะเก็บตัวที่ไทยเท่าไหร่ หรือจะเดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศใกล้เคียงหรือไม่ มีอุ่นเครื่องกี่นัด ต้องการแบบใดให้ระบุมา
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ด้วยความที่เอเอฟซี เลื่อนการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ของโซนตะวันออก ไปอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน หลังจากจบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ดังนั้นจะมีปัญหาสำหรับตัวแทนของไทย ทั้ง 4 สโมสร ในการเก็บตัวหรือไม่ เพราะนักเตะตัวหลักของสโมสรก็เป็นตัวหลักของทีมชาติทั้งสิ้น
พ่อบ้านลูกหนังไทย กล่าวว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงฟีฟ่าเดย์ ดังนั้นทีมชาติสามารถเรียกนักเตะมาได้ทั้งหมด และทุกชาติก็คงจัดเต็มมาเช่นกัน และคิดว่าทุกชาติที่จะต้องเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก็คงเจอปัญหาไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตามด้วยความที่ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เป็นช่วงโค้งสุดท้าย ว่าทีมชาติไทยจะได้ไปต่อหรือไม่ ดังนั้นเชื่อว่าทุกสโมสรทราบดี และจะให้ความร่วมมือเต็มที่แน่นอน
ขณะที่ช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีนักกีฬาไทยที่ต้องเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วนั้น นายพาทิศ กล่าวว่า ทางนักฟุตบอลเองก็คงอยากได้เช่นกัน เพราะมันเป็นเรื่องของนักกีฬาที่ต้องเดินทางออกไปแข่งขันต่างประเทศ แต่ต้องรอดูนโยบายของทางรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่านักฟุตบอลไทยน่าจะอยู่ในเกณฑ์เดียวกับนักกีฬาที่จะไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ดังนั้นคงต้องปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง
