‘อำนวย’ เผยยังตามติดคดีเชิ้ตดำล้มบอลอีก 2 คดี และพร้อมจับตาดูคดีอื่นเพิ่ม
หลังจากที่ศาลอาญาพิพากษาคดีล้มบอลไทย คดีหมายเลขดำ ที่ อ.2131/2561 ให้จำเลยซึ่งต้องหาความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 และ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 รวม 15 คน มีความผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุก จำเลย ทุกคน 1-5 ปี โดยไม่รอลงอาญา และมีโทษปรับอีกส่วนหนึ่งนั้น
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกและ ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก ไม่รอลงอาญา เชื่อว่าจะเป็นส่วนที่ทำให้ผู้ที่จะกระทำการล็อกผลฟุตบอลนั้นเกิดความเกรงกลัวอย่างมาก เพราะถือว่ามีคดีตัวอย่างที่กระทำแล้วติดคุกได้ ซึ่งนอกเหนือจาก 15 คนที่ถูกตัดสินโทษไปแล้ว ยังมีอีก 2 ชุด ที่กองปราบปรามกำลังสืบสวน เป็นชุดของผู้ตัดสินทางภาคเหนือและภาคใต้
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า นอกเหนือจากผู้ตัดสิน 2 ชุดนั้น ทางสมาคมฯ ก็พยายามจับตา สอดส่องอยู่ต่อเนื่อง เพราะพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ก็เป็นตำรวจ ตนเองก็เป็นตำรวจ ตอนนี้ก็มีบางชุดที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เหมือนฝนเริ่มตั้งเค้าแล้ว ส่วนจะตกหรือไม่ก็ต้องรอดูกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การตัดสินในฤดูกาลนี้ มีปัญหาที่ต้องจับตาหรือไม่ พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า จริงๆแล้ว ฤดูกาลนี้ มีการร้องเรียนผู้ตัดสินค่อนข้างน้อย ระบบวีเออาร์ช่วยงานได้จริง หรือแม้แต่ แมตช์ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ คู่ สุโขทัย เอฟซี ชนะ ระยอง เอฟซี 5-1 กับ สมุทรปราการซิตี้ เสีย 2 จุดโทษ ท้ายเกม แพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-2 ทางสโมสรก็ไม่ได้ร้องเรียนการทำหน้าที่ผู้ตัดสินเข้ามา และเมื่อตรวจดูจากภาพช้า ก็ไม่พบปัญหาแต่อย่างใด
สำหรับ 15 คน ที่ถูกตัดสินโทษไปแล้วนั้น ประกอบด้วย นายธีรจิตร สิทธิศุข, , นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผอ.สโมสรศรีสะเกษ, นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล, นายเศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ, นายวัลลภ สมาน, นายกิตติภูมิ ปาภูงา อดีตนักฟุตบอล, นายภุมรินทร์ คำรื่น ผู้ตัดสินฟีฟ่า 2017, นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, เสกสันต์ ชาวทองหลาง, สุทธิพงษ์ เหลาพร, สุวิทยา นำสินหลาก, ณรงค์ วงษ์ทองคำ (4 คนจากสโมสรราชนาวี), ธีรชัย งามเจริญ, ทศพร เขม็งกิจ และเอกพันธ์ จันดากรณ์ (3 นักเตะศรีสะเกษ เอฟซี)
