‘สมยศ’ ยังมืดแปดด้านแบ่งเงินลิขสิทธิ์ไทยลีก ไม่การันตีว่าได้หรือไม่
หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ซึ่งเดิมทีจะมีขึ้นในวันที่ 20 เมษายน ออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกล่่าสุด รวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้มีการปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา เนื่องจากว่ามีผู้ติดเชื้อภายในอาคารด้วยนั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถาม “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถึงการประชุมดังกล่าวว่าจะเลื่อนนานเท่าไหร่นั้น ได้รับคำตอบว่า การประชุมนั้นต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เนื่องจากว่าระเบียบข้อบังคับไม่อนุญาตให้มีการประชุมในระบบคอนเฟอร์เรนซ์ เพราะทางสมาคมฯ ได้แก้ไขระเบียบข้อบังคับไปแล้วแต่ทางกกท.ยังไม่ได้เซ็นรับรองข้อบังคับ จึงทำให้ไม่สามารถจัดการประชุมได้ เมื่อประชุมคอนเฟอเรนซ์ไม่ได้ จะเลื่อนถึงเมื่อไหร่ก็ต้องอยู่ที่จะเรียกประชุมอีกครั้ง แต่คิดว่าต้องเกิน 1 เดือนเพราะต้องมีการส่งวาระการประชุมล่วงหน้า 1 เดือน จึงจะจัดการประชุมได้ ถ้ายังไม่มั่นใจสถานการณ์ก็คงต้องเลื่อนออกไปก่อน
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะมีการคุยเรื่องแบ่งเงินลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของฟุตบอลไทยในฤดูกาลที่ผ่านมาให้กับสโมสรนั้น บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะในที่ประชุมจะมีแค่การคุยเรื่องของงบดุลประจำปีเท่านั้น ไม่ได้มีการคุยเรื่องจัดสรรเงินตรงนี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมถึงเรื่องค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่จะมอบให้สโมสรนั้น ประมุขลูกหนังไทย กล่าวว่า ยังไม่สามารรถบอกได้เพราะทางบริษัท เซนส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด เองยังไม่ได้แจ้งว่าได้รับเงินจากสปอนเซอร์มาเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ที่แฟนบอลได้รับชมผ่านทางโทรทัศน์เพราะว่ากกท.นั้นให้เงินค่าถ่ายทอดสดมา แล้วให้ช่องต่างๆ ดึงสัญญาณไป ก็ขึ้นอยู่กับช่องไปหาสปอนเซอร์ ซึ่งเมื่อได้จำนวนเลขตรงนี้มาจึงจะคำนวณได้ว่าจะแบ่งอย่างไร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะคุยกัน
“ผมไม่สามารถยืนยันว่าสโมสรจะได้รับเงินไหม เพราะไม่อยากพูดออกไปก่อนทั้งที่ยังไม่แน่ใจ ด้วยภาวะการณ์ตอนนี้ไม่มีใครคำนวณหรือคาดหวังอะไรได้ บางทีวันนี้สปอนเซอร์บอกจะจ่ายเงินให้แต่ผ่านไปสักเดือนหนึ่งอาจยกเลิกได้ ดังนั้นช่วงนี้ถือว่าเป็นภาวะสุดวิสัยที่บอกไม่ได้จริงๆ”
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวปิดท้ายว่า ส่วนเรื่องเงินสนับสนุนฤดูกาลต่อไป ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งประกอบด้วยบริษัท ไทยลีก จำกัด, สมาคมฟุตบอลฯ, ตัวแทนสโมสร, บริษัท เซนส์ และแพลนบี ที่จะมาคุยกันเรื่องนี้ และจะแบ่งเงินอย่างไร โดยจะฟังเหตุผลของทุกฝ่ายแล้วแบ่งให้เหมาะสม การตั้งคณะกรรมการเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ทุกคนยอมรับจำนวนเงินตรงนั้น แต่ก็ยอมรับว่าคงไม่ได้ดั่งใจทุกฝ่ายแน่นอน
สำหรับเงินสนับสนุนไทยลีก ฤดูกาล 2020 ได้มอบให้สโมสรไปเพียงงวดแรก ตั้งแต่ต้นเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ไทยลีก 1 ได้สโมสรละ 5,000,000 บาท จาก 20,000,000 บาท, ไทยลีก 2 สโมรละ 750,000 บาท จาก 3,000,000 บาท และไทยลีก 3-4 ได้สโมสรละ 250,000 บาท จาก 1,000,000 บาท
