ส.บอลหารือ กกท.ฟื้นฟูสนามหญ้าหลังคอนเสิร์ต ‘BLACKPINK’ เพื่อใช้จัดชิงแชมป์เอเชียยู-17
นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ และนายปิยภัทร สิโรบล รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค และฝ่ายจัดการแข่งขันของสมาคม ร่วมหารือกับ นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการฝ่ายส่งเสริมกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการขอใช้สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ขอความอนุเคราะห์ใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย หลังจากได้รับสิทธิจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย (2023 AFC U-17 Asian Cup) ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน-2 กรกฎาคม เพื่อหาตัวแทนจาก 4 ชาติของทวีปเอเชีย เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (2023 FIFA U-17 World Cup)
อย่างไรก็ตาม สนามราชมังคลากีฬาสถานซึ่งอยู่ในการดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ได้ถูกจองจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก “BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ENCORE” ระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม ทำให้อาจส่งผลกระทบกับการจัดการแข่งขันยู-17 ชิงแชมป์เอเชีย เนื่องจากเกรงว่าพื้นหญ้าจะไม่สมบูรณ์ เพราะมีเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ในการรื้อถอนเวทีและฟื้นฟูหญ้า ก่อนส่งมอบสนามให้เอเอฟซี
โดยการหารือในที่ประชุมวันนี้เป็นการหารือแนวทางการใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในระดับนานาชาติที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการจัดวางตารางใช้สนามให้สอดคล้องกับระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพของหญ้า และพื้นสนามเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการแข่งขันฟุตบอล
“ปกติการฟื้นฟูหญ้าโดยธรรมชาติจะใช้เวลาประมาณ 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ แต่ปัจจุบันมีเทคนิคในการฟื้นฟูหญ้าให้กลับมาสมบูรณ์เร็วขึ้น แต่ต้องมีประสบการณ์และใช้เครื่องมือที่ทันสมัย รวมถึงงบประมาณที่ค่อนข้างสูง” สมาคมเผย
“ช่วงต้นเดือนมีนาคมจะมีการหารือกับ กกท.อีกครั้ง และคราวนี้ฝ่ายโปรดักชั่นของผู้จัดคอนเสิร์ตจะมาร่วมหารือด้วย ซึ่งจะได้ทราบจุดตั้งเวที อุปกรณ์ที่ใช้คลุมหญ้า และระยะเวลารื้อถอนเวที จากนั้นถึงจะประเมินได้ว่าการฟื้นฟูหญ้าสนามจะเสร็จทันสำหรับยู-17 ชิงแชมป์เอเชียหรือไม่”
ทั้งนี้ สมาคมได้ดำเนินการขอใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานล่วงหน้าและได้รับอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสนามราชมังคลาเป็นไปตามข้อกำหนดของเอเอฟซีที่สามารถรองรับการแข่งขันได้สองนัดในหนึ่งวัน โดยจะต้องมีห้องแต่งตัว 4 ห้อง ซึ่งในรายการนี้ต้องใช้ 4 สนามเพื่อรองรับ 16 ประเทศ โดยเอเอฟซีจะส่งเจ้าหน้าที่มาจัดการแข่งขันในศูนย์ปฏิบัติการที่กรุงเทพฯเท่านั้น
สำหรับฟุตบอลยู-17 ชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบสุดท้าย เอเอฟซีได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่กรุงเทพฯ ทำให้ต้องใช้สนามที่มีระยะทางไม่ไกล (ไม่ควรใช้เวลาเดินทางเกิน 2 ชม.โดยประมาณ) นอกจากนั้นจะต้องเป็นสนามที่ได้รับการรับรองจากเอเอฟซี มีห้องแต่งตัวนักกีฬาพร้อมใช้งาน 4 ห้อง เพราะมีเตะ 2 คู่ต่อ 1 วัน จึงเป็นเหตุผลของการใช้ 4 สนาม คือ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต, บีจี ปทุม สเตเดียม, ชลบุรี สเตเดียม และราชมังคลากีฬาสถาน
