‘มาโน่’ ปัดตอบเรื่องอนาคต ชู ‘ธีรศิลป์’ ยังช่วยทีมได้เสมอ
หลังจากที่ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย บุกมาเอาชนะ สิงคโปร์ 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มซี นัดที่สอง ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน
มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เป็นชัยชนะที่สำคัญมากๆ สำหรับทีมชาติไทย จากสถานการณ์ในเกมแรกที่พลาดมา เราต้องการเอาชนะให้ได้ ครึ่งแรกสิงคโปร์ทำให้เราเจองานที่ยากลำบาก เป็นการเล่นที่มีสปิริตที่ดีจากแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ แต่ครึ่งหลังเราแก้เกมมาและได้เล่นในเกมที่ถนัด คุมเกมได้ดีขึ้นจนทำ 2 ประตูได้ ซึ่งการลงมาของธีรศิลป์นั้นช่วยได้มากจริงๆ
“แพลนของเราคือจะให้ธีรศิลป์ลงเล่น 30 นาทีเพราะไม่อยากให้มีอาการบาดเจ็บกลับไป ซึ่งเห็นแล้วว่าการเล่นของเขามีคุณภาพมากแค่ไหน นี่คือกองหน้าที่ดีที่สุดที่เคยเห็นมา แค่ลงมาก็สามารถตัดสินเกมได้เลย ซึ่งพอหลังยิงประตูได้ก็ทำให้เราคุมเกมเอาไว้ได้”
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงอนาคตของมาโน่นั้น เจ้าตัวกล่าวว่า “ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ มันไม่ได้อยู่ในการควบคุมของผม”
กุนซือช้างศึก กล่าวอีกว่า เรายังคงผิดหวังกับเกมแรก แต่อย่างน้อยเกมนี้เราก็กลับมาได้ ได้ความมั่นใจกลับคืนมา ยังเป็นเส้นทางอีกยาวไกลเพราะเหลือ 4 เกม อย่างไรก็ตามรายการต่อไปคือเอเชี่ยนคัพ ก็จะต้องสู้เพื่อแฟนบอลต่อไป แต่อย่างน้อยวันนี้เรากลับบ้านด้วยความสุข
เมื่อพูดถึงเอเชี่ยนคัพ มาโน่ กล่าวว่า เรามีเวลาในการเตรียมตัว มีการอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่นอีก แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องได้ทีมชุดนี้ ได้ซ้อมด้วยกัน ถ้าเราเล่นในแนวทางตัวเอง มีความเชื่อมั่น ก็มีโอกาสจะมีเอเชี่ยนคัพที่ดีได้
นอกจากนี้ มาโน่ ยังกล่าวถึงพัฒนาการของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลังจากไปเล่นลีกเบลเยียม ว่า แข็งแกร่งขึ้นเยอะเมื่อดูจากร่างกายของแบงค์ แน่นอนว่าตนสนับสนุนให้ไปเล่นต่างประเทศเพราะจะช่วยพัฒนาการได้อีกเยอะ และหวังว่าจะมีนักเตะไทยไปมากกว่านี้
ด้านศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ทำ 2 ประตูในเกมนี้ กล่าวว่า ครึ่งแรกทีมยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ สิงคโปร์ก็ทำให้เราอึดอัดแต่พอปรับแผนเล็กน้อยก็ทำให้ทีมกลับมาได้ ส่วนการไปเล่นวิงแบ๊กนั้น ก็ไม่ต่างจากตอนเล่นปีกเพราะต้องขึ้นสุด-ลงสุดเหมือนกัน ขณะที่ 2 ประตูที่ทำได้ต้องขอบคุณพี่ๆ ที่ช่วยกัน จนเราเก็บ 3 คะแนนได้ในที่สุด
“ประตูปิดท้ายก็อยากเอาให้ชัวร์ แต่ก็เสียใจที่พอเลือกจ่ายไปแล้วมันไม่ผ่าน” ศุภณัฏฐ์ กล่าวปิดท้าย
หลังจบเกมนี้ทีมชาติไทยจะเดินทางกลับในเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายน ก่อนจะปล่อยนักเตะกลับสู่สโมสร โดยจะมีโปรแกรมต่อไปในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติญี่ปุ่น วันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อเตรียมพร้อมสู่ทัวร์นาเมนต์เอเชี่ยนคัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ ในเดือนมกราคม 2567 ต่อไป
