โพลกีฬาชี้คนเชื่อมั่นนายกแป้ง หวังรื้อระบบบริหาร หวั่นผลประโยชน์ทับซ้อน

โพลกีฬาชี้คนเชื่อมั่นนายกแป้ง หวังรื้อระบบบริหาร หวั่นผลประโยชน์ทับซ้อน

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ปรากฏการณ์บอลไทยหลังการเลือกตั้งนายกสมาคม” เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และสะท้อนมุมมองของแฟนกีฬาในมิติที่เกี่ยวกับปรากฏการณ์ของวงการฟุตบอลไทยภายหลังการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเป็นทาง “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ได้นั่งเก้าอี้นายกลูกหนังไทยคนที่ 18

สำหรับการสำรวจในครั้งนี้ KBU SPORT POLLโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ร่วมกับ หลักสูตรการบริหารนวัตกรรมการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไป และผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารวงการกีฬา อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,097 คน โดยแบ่งเป็น เพศชาย 695 คน คิดเป็นร้อยละ 63.36 เพศหญิง 402 คน คิดเป็นร้อยละ 36.64

ผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ โดยภาพรวมพบว่า ด้านความเชื่อมั่นที่มีต่อนายกสมาคม กับการบริหารจัดการสู่การเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่ร้อยละ 29.65 เชื่อมั่นค่อนข้างมาก รองลงมาร้อยละ 28.10 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 24.90 เชื่อมั่นมาก ร้อยละ 9.62 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ร้อยละ 4.80 เชื่อมั่นน้อย และร้อยละ 2.93 ไม่แสดงความคิดเห็น

Advertisement

ด้านปรากฏการณ์ และความคาดหวังที่ต้องการให้นายกสมาคมดำเนินการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนใหญ่ร้อยละ 26.10 ต้องการให้ปรับระบบการบริหารจัดการ รองลงมาร้อยละ 22.98 วางรากฐานและโครงสร้างการพัฒนาเยาวชนแบบครบวงจร ร้อยละ 18.07 วางแผนพัฒนาและเตรียมทีมชาติในทุกระดับอย่างเป็นระบบ ร้อยละ 14.20 ปรับระบบและมาตรฐานกรรมการผู้ตัดสิน ร้อยละ 11.09 ยกระดับฟุตบอลลีกทั้งชายและหญิงสู่มาตรฐานสากล ร้อยละ 5.42 จัดสิทธิประโยชน์และรายได้ให้สโมสรสมาชิกในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม และอื่นๆ ร้อยละ 2.14

ด้านปรากฏการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา ส่วนใหญ่ร้อยละ 29.16 การบริหารจัดการภายใต้ผลประโยชน์ทับซ้อน รองลงมาร้อยละ 28.04 ผลงานทีมชาติทุกระดับ/ทุกประเภทตกต่ำ ร้อยละ 16.08 การไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาแบบเดิมๆ ร้อยละ 14.86 การบริหารจัดการภายใต้การครอบงำของบุคคลภายนอก ร้อยละ 9.40 การไม่ปฏิบัติตามสัญญาประชาคม และอื่นๆ ร้อยละ 2.46

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภายหลังการเลือกตั้งและได้มา ซึ่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลคนใหม่ แฟนฟุตบอล ตลอดจนผู้สนใจทั่วไปต่างมีความเชื่อมั่นที่มีต่อนายกคนใหม่ในระดับค่อนข้างมาก ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะความมุ่งมั่น และประสบการณ์การมีส่วนร่วมกับวงการฟุตบอลไทยในระยะเวลาที่ผ่านมา ผนวกกับความพร้อม หรือต้นทุนในมิติต่างๆ ของผู้นำคนใหม่ จึงส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างต่างคาดหวังที่จะเห็นวงการฟุตบอลไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะการปรับระบบการบริหารจัดการองค์กร รวมทั้งการวางรากฐาน และโครงสร้างการพัฒนาเยาวชนแบบครบวงจร

Advertisement

“ที่น่าสนใจสำหรับเสียงสะท้อนที่แฟนกีฬาส่งสัญญาณ เพื่อให้นายกคนใหม่ และสภากรรมการพึงตระหนักคือไม่ปรารถนาที่จะเห็นการบริหารจัดการภายใต้ผลประโยชน์ทับซ้อน และผลงานทีมชาติทุกระดับตกต่ำ พร้อมกันนั้นผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอแนะให้สมาคมส่งเสริม และสนับสนุนฟุตบอลลีกภูมิภาค หรือลีก 3 ให้กลับมาเป็นที่สนใจของแฟนบอลในท้องถิ่นดังในอดีตที่ผ่านมา และไม่ปล่อยให้ผู้ทำทีมประสบปัญหาต้องยกเลิกการส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันเพราะขาดผู้สนับสนุน เป็นต้น” ผศ.ดร.รัฐพงศ์กล่าวปิดท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image