ช้างศึกยู-17 ใช้แมสก์ซ้อมเตรียมตัวลุยซาอุฯ อนุรุทธิ์-จเด็จย้ำเป้าหมายสำคัญ

ช้างศึกยู-17 ใช้แมสก์ซ้อมเตรียมตัวลุยซาอุฯ อนุรุทธิ์-จเด็จย้ำเป้าหมายสำคัญ

“ช้างศึกยู-17” ทีมฟุตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ลงฝึกซ้อมต่อเนื่องที่ไดนามิค ฟุตบอล แคมป์ จังหวัด สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย ที่ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 3-20 เมษายน

การฝึกซ้อมในวันนี้นอกจากการฟื้นฟูร่างกาย ยังได้มีการนำแมสก์ เทรนนิ่ง มาใช้ในการซ้อมเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในระบบหายใจ

นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย ผู้จัดการทีมชาติไทย ยู-17 กล่าวว่า แคมป์นี้เป็นการเก็บตัวต่อเนื่องมาจากครั้งที่แล้ว ที่เราเรียกตัวมาทั้งหมด 43 คน ก่อนที่แคมป์นี้เราตัดให้เหลือ 30 คน เพื่อเพิ่มความเข้มข้น แคมป์นี้เรามาฝึกซ้อมกันที่สนามไดนามิค ซึ่งค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวดี ในการซ้อมเราพยายามจะเน้นในเรื่องของพลกำลัง โดยเราจะมีการตัดตัวอีกครั้งให้เหลือ 25 คนในวันที่ 14 มีนาคม เพื่อเตรียมเดินทางไปเก็บตัวที่ Aspire Academy ประเทศกาตาร์ หลังจากนั้นจะมีการคัดเลือกนักเตะให้เหลือ 23 คนสุดท้าย เพื่อเตรียมเข้าทัวร์นาเมนต์”

ADVERTISMENT

“เราพยายามเน้นให้การฝึกซ้อมมีความเข้มข้น ทั้งพลกำลังและแทคติกที่เราจะเพิ่มเติมในสัปดาห์ต่อไป อย่างที่ทราบว่าเราเรียกนักเตะมา 30 คน ซึ่งตอนนี้ในแคมป์มีอยู่ 29 คน ในส่วนของ ซิลวา เม็กแซส เราได้ให้โอกาสเพราะเห็นว่าเขามีความสามารถที่ผ่าน แต่เนื่องจากเขาติดภารกิจกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังมีการแข่งขันอยู่ ซึ่งเราจะให้น้องตามไปเจอกันที่กาตาร์เลยหลังเสร็จภารกิจ ส่วนนักเตะคนอื่นถือว่ามีความพร้อมที่สมบูรณ์เลย”

“ที่ซาอุดีอาระเบีย จะมีความสูงในระดับน้ำทะเลที่สูงกว่าเรามาก ประมาณ 1,900 เมตร หรือสูงกว่าดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญในปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้การซ้อมมีการใส่แมสก์ เพื่อฝึกฝนให้จำกัดอากาศบางเบา ให้น้องๆให้ฝึกความทนทานจากอากาศ รวมถึงความเหนื่อยด้วย”

ADVERTISMENT

“ส่วนตัวไม่ได้อยากให้เรียกว่าไทยแลนด์เวย์หรือเจแปนเวย์ ตอนนี้ทางสตาฟโค้ช ได้มีการพูดคุยกันว่าเราคำนึงถึงบอลสมัยใหม่ หากใครได้ติดตามชุดยู17 จะเห็นได้ว่าเราเน้นเกมเร็ว มีสปีดที่เร็ว ไม่ได้เน้นเกมรับมากเกินไป รวมถึงเน้นให้นักเตะเพรสซิ่งและทรานซิชั่นให่รวดเร็วด้วย ซึ่งเป็นต้นแบบที่เราเอามากจาก 3 ประเทศ ทั้งสเปน, อาร์เจนติน่า และ ญี่ปุ่น ให้มาผสมผสานกัน”

“ในกลุ่มของเราไม่ใช่งานที่ง่าย และไม่ใช่งานที่ยากจนเกินไป เพราะทั้ง 4 ทีม อย่าง อุซเบกิสถาน ที่น่าจะหนักที่สุด ซึ่งเราต้องเจอในแมตช์แรกเลย รองลงมาเป็นซาอุดีอาระเบีย ที่เป็นเจ้าภาพ ทำให้เป็นอะไรที่ยากอยู่แล้ว ส่วนการเจอจีน ซึ่งมีพัฒนาการที่เยอะ มาในรูปแบบฟุตบอลที่สมัยใหม่ ซึ่งทั้ง 3 เกม ไม่ง่ายเลย แต่เราจะฝ่าฟันเพื่อให้ไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายให้ได้”

“สำหรับแมสก์ที่เรานำมาสวมใส่ในการซ้อมครั้งนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากที่ซาอุดีอาระเบีย จะมีความสูงในระดับน้ำทะเลที่สูงกว่าเรามาก ซึ่งหากนักเตะไม่ได้ลองฝึกฝนมาก่อน จะเหนื่อยง่ายและสู้ได้ยาก เราจึงต้องฝึกให้ชินมากที่สุด”

“อยากจะขอกำลังใจจากแฟนบอลทีมชาติไทยทุกๆคน น้องๆชุดนี้ทุกคนสู้มากๆ เราจุดเด่นอยู่ที่หัวใจที่มีความเป็นนักสู้ วิ่งไล่ไม่มีหมด ทุกอย่างที่น้องทำมาตั้งแต่ชิงแชมป์อาเซียน และรอบคัดเลือกที่ผ่านมา เราทุ่มเทมากๆ อยากฝากให้แฟนบอลทุกท่านส่งกำลังใจไปที่ซาอุดีอาระเบีย เราจะพยายามทำให้แฟนบอลสมหวังด้วยการไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย”

ด้าน จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยู-17 กล่าวว่า “เรามีการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน มีสตาฟที่มีความรู้ความสามารถในเมืองไทยทุกด้านมาช่วยทีมเรา ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยพัฒนาทีม เรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากพัฒนาให้ทีมดีมากขึ้น ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเน้นเรื่องของฟิตเนส แต่หลังจากนี้จะเน้นเรื่องของแทคติกทั้งเกมรุกและเกมรับที่จะใช้ในการเจอคู่แข่งร่วมสาย ซึ่งเราประเมินตลอดว่าคู่แข่งเล่นอย่างไร จะเอาชนะพวกเขาอย่างไร ทำให้เรามีข้อมูลที่ดีทั้งคู่ต่อสู้และทีมเราด้วย

“ผมคิดว่าทีมงานของผมดีมาก มีความเก่งในแต่ละสาขา มีความรู้ทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่หลากหลายเพื่อทดสอบความสามารถของเด็กให้พร้อมมากที่สุด เมืองที่เราไปแข่งมีความสูงจากน้ำทะเลถึง 1,900 เมตร ทำให้อากาศเบาบางมาก ทำให้อาจจะมีปัญหาเรื่องการหายใจ เราจึงต้องซ้อมเพื่อจำลองสถานการณ์ ด้วยการใช้แมสก์เพื่อให้ฝึกฝนการหายใจที่เบาบาง รวมถึงการกินโปรตีนและแคลเซียม เพื่อให้จับกับออกซิเจนในเลือดให้นักเตะมีความทดทานในการวิ่ง ซึ่งเราพยายามเตรียมตัวให้ดีที่สุด”

“ตอนนี้เราโฟกัสที่เด็กชุดนี้แล้ว หลังจากมีการตัดตัวกันมา เพื่อที่จะเตรียมแทคติกในการแข่งขัน ในส่วนของซิลวา เม็กแซส เขาเก่งมากในรุ่นอายุเดียวกัน มีความสามารถที่สูง ไม่แปลกใจที่จะได้เซ็นสัญญากับสโมสรใหญ่ เขามีความเร็วและร่างกายที่ดี รวมถึงการยิงบอลที่ดีมาก ซึ่งน้องจะตามไปเก็บตัวที่กาตาร์อย่างแน่นอน การไม่ได้ซ้อมกับทีมร่างกายของเขาอาจจะไม่มีปัญหา แต่เรื่องของแทคติกอาจจะมีปัญหานิดหน่อย แต่ผมคิดว่าคงปรับตัวได้ไม่ยาก”

“เราต้องเตรียมทีมให้เต็มที่ หากไม่พร้อมที่สุดและไปเล่นในอากาศที่เบาบางด้วย รวมถึงฟิตเนสไม่ถึงขั้นที่ดี อาจจะไปแข่งขันลำบาก ทำให้เราต้องเตรียมหลายอย่างให้ดี หากร่างกายและจิตใจไม่ดี ไม่มีแรงกระตุ้น อาจจะแข่งขันได้ไม่ดี ซึ่งเราต้องเตรียมให้พร้อมที่สุด คนที่ไม่ติดในแคมป์นี้ทุกคนยังมีโอกาสกลับมาเล่นกับทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอน หากมีพัฒนาการที่ดี เด็กไทยกับเด็กจากต่างประเทศไม่ได้แตกต่างกันมาก อยู่ที่การเริ่มต้นและความพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นมากกว่า”

ทีมชาติไทย U17 เก็บตัว ที่ไดนามิค ฟุตบอล แคมป์ ไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 โดยจะมีการอุ่นเครื่องแบบปิดอีก 2 นัด ก่อนจะคัดเลือกนักกีฬาจากชุดดังกล่าวให้เหลือ 25 คน และเดินทางไปเก็บตัวตัวต่อ ที่ Aspire Academy ประเทศกาตาร์ ก่อนคัดเลือกอีกรอบให้เหลือ 23 คน เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย AFC U17 ASIAN CUP Saudi Arabia 2025 ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image