สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยืนยันเกมอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ ระดับ เอแมตช์ ของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งจะบุกไปเยือน “ตี๋น้อย” ฮ่องกง ทีมอันดับ 142 ของโลก ที่มงก๊ก สเตเดียม ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้
สำหรับทีมชาติไทย อันดับ 122 ของโลก ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชมิโล” มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบีย อยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อมเพื่อศึกใหญ่ 2 รายการในช่วงปลายปีพ.ศ.2561 ถึงต้นปี พ.ศ.2562 คือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” และ “เอเชี่ยนคัพ 2019” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยทางด้าน นายเบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้เดินทางไปตรวจสนาม มงก๊ก สเตเดี้ยม ที่จะใช้จัดการแข่งขันแมตช์ดังกล่าว
นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ เปิดเผยว่า ราเยวัชได้ร้องขอให้มีเกมอุ่นเครื่องนอกบ้านเพื่อทดสอบบรรยากาศการเล่นเป็นทีมเยือน แต่ไม่ไกลมากนักเพราะช่วงดังกล่าวจะมีเกมอุ่นเครื่องในบ้านอีกหนึ่งนัด ดังนั้นฮ่องกงจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ทั้งสภาพสนาม และอากาศ รวมไปถึงบรรยากาศของแฟนบอล
“การเลือกฮ่องกงนั้นเป็นเพราะว่าทีมที่จะไปเยือนจะต้องไม่แข็งจนเกินไป เพราะจะเน้นทีมที่แกร่งกว่ามาอุ่นเครื่องในบ้าน ส่วนจะเป็นทีมใดนั้นจะมีการเปิดเผยอีกครั้งหนึ่ง” นายพาทิศ กล่าว
ทางด้าน “โค้งเฮง” นาย วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การอุ่นเครื่องไม่ว่าเจอทีมแกร่งหรืออ่อนกว่าก็มีประโยชน์ต่างกันไป หากเจอทีมที่แกร่งกว่าก็ได้ทดสอบเกมรับ หรือหากเจอทีมที่อ่อนกว่า ทีมไทยจะได้ซ้อมการขึ้นเกมรุก ซึ่งการพบกับฮ่องกง เชื่อว่าราเยวัช จะได้ทดสอบระบบเกมรุกในหลายรูปแบบให้นักเตะคุ้นเคย ก่อนถึงศึกชิงแชมป์อาเซียน และชิงแชมป์เอเชีย
“ประโยชน์น่ะมีแน่ แต่อยู่ที่ว่าเราจะฝึกอย่างไร ในเรื่องการขึ้นเกม จะสะเปะสะปะไม่ได้ นักเตะต้องรู้ว่าจะบุกอย่างไร เอาบอลไปตรงไหน ซึ่ง ราเยวัช ก็จะได้ซ้อมจากเกมกับ ฮ่องกง” โค้ชเฮง กล่าวปิดท้าย
