สำหรับคนชอบดูฟุตบอล การที่ฟุตบอลโลกมาจัดในบ้านเกิดตัวเองถือเป็นความสุขสุดยอด เพราะตลอด 1 เดือนที่ฟาดแข้งกัน จะได้อยู่ในบรรยากาศที่ใครๆ ก็อยากมาสัมผัส ซึ่งคนในท้องถิ่นอาจจะแค่เดินออกไปหน้าบ้านฟุตบอลโลกก็โบกมือทักทายแล้ว
เบโต้ กรานาดอส ชายเม็กซิกันคนหนึ่งที่เป็นวัยรุ่นบ้าบอลในช่วงที่ เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 1986 พอดิบพอดี เขาถือตั๋วฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีม ที่จะเตะในวันที่ 15 มิถุนายน 1986 ซึ่งวันนั้นทีมชาติเม็กซิโกจะพบกับ บัลแกเรีย
เช้าของวันที่ 15 มิถุนายน 1986 นับเป็นวันพ่อของแดนจังโก้(ตรงกับวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายนของทุกปี) กรานาดอสเตรียมตัวจะไปเชียร์ทีมชาติที่สนามแอซเตก้า แต่เขากลับไม่ได้ไปอยู่ในสนามอย่างที่คิดไว้!
เช้าวันนั้น เลติเซีย ภรรยาของกรานาดอสปวดท้องอย่างมาก ลูกชายของทั้งคู่กำลังจะลืมตาดูโลก ภรรยารู้ดีว่าเขารอคอยฟุตบอลโลกแมตช์นี้ขนาดไหน จึงยืนยันว่าสามารถไปโรงพยาบาลคนเดียวได้ เพราะไม่อยากทำลายความฝันของฝ่ายสามี
“พวกเราไปถึงโรงพยาบาล วันนั้นลูกชายผมคลอดพอดี ใช่ครับ ในฐานะสามีและพ่อ ผมต้องอยู่กับครอบครัว” แฟนบอลเม็กซิโกย้อนความจำ
เลติเซียยังคงคะยั้นคะยอให้กรานาดอสไปเชียร์เม็กซิโก แต่เขายืนยันว่าจะขอฟังรายงานสดการแข่งขันจากทางวิทยุเพื่อจะได้อยู่กับลูกและเมีย ชัยชนะของทีมจังโก้ 2-0 และลูกยิงสุดสวยของ มานูเอล เนเกรเต้ ที่เป็นที่จดจำมาถึงทุกวันนี้ กรานาดอสได้ฉลอง 2 ต่อทั้งได้ลูกชายและเม็กซิโกเข้ารอบ 8 ทีม
“ผมว่าการที่โรแบร์โต้คอลดในวันนั้น มันสำคัญกว่าการไปอยู่ที่สนามแอซเตก้าเยอะเลยนะ ผมรู้สึกเหมือนได้ของขวัญ 2 ชิ้นเลย” กรานาดอสเปิดใจ
โรแบร์โต้เติบโตมากับลูกฟุตบอล เขานอนหลับไปโดยมีลูกบอลวางอยู่ข้างเตียง ไปดูฟุตบอล “กลาซิโก้ นาซอองนาลส์” ระหว่าง ชีวาส กับ คลับ อเมริกา สองทีมดังของเม็กซิโกกับพ่อ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นนักเตะ แต่โรแบร์โต้ก็เคยเป็นนักข่าวกีฬามาระยะหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์การตลาด
โรแบร์โต้รู้ดีว่าความฝันของพ่อยังไม่สมบูรณ์ ฟุตบอลโลกมาเคาะประตูเรียกอยู่หน้าบ้านในวันที่เขาเกิด แต่หน้าที่พ่อยิ่งใหญ่กว่าสถานะแฟนบอล เขาถึงเขียนเรียงความที่ความยาว 350 คำ ในโครงการ “พาคนสำคัญไปดูบอลโลก” ที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จัดให้มีการประกวดเรียงความจากทั่วโลก ซึ่งมีคนส่งประกวดถึง 13,000 เรื่อง จาก 150 ประเทศทั่วโลก
ฟีฟ่าเลือกพ่อลูกคู่นี้เป็นผู้เข้ารอบสุดท้าย เพื่อลุ้นไปดูฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย แต่ความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะหลังจากรู้ว่าเรียงความได้เข้ารอบสุดท้ายแค่ 10 วัน เม็กซิโก็มีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในวันที่ 19 กันยายน ปีที่แล้ว ช่วงนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
“แผ่นดินไหววันนั้นทำให้ผมลืมเรื่องเรียงความไปเลย เพราะมันวุ่นวายมาก ฟีฟ่าอีเมลกลับมาหาผมอีกครั้ง แต่ในอีเมลเริ่มต้นด้วยคำว่าขอแสดงความเสียใจ มันทำให้ผมเดาได้เลยว่า คงจะอดพาพ่อไปดูบอลโลกแล้วแน่ๆ แต่กลับเป็นแสดงความเสียใจเรื่องแผ่นดินไหวต่างหาก พออ่านต่อไป ฟีฟ่าก็บอกว่า แล้วเจอกันที่ฟุตบอลโลกนะ” โรแบร์โต้เล่า
พ่อลูกชาวเม็กซิกันคู่นี้ได้ร่วมชมเกมนัดเปิดสนามที่ “เจ้าภาพ” รัสเซีย ถล่ม ซาอุดีอาระเบีย 5-0 ที่ลุซนิกิ สเตเดียม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กรานาดอสบอกว่า เมื่อวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว 32 ปีที่แล้ว ในวันที่ 19 กันยายน เม็กซิโก ซิตี้เกิดแผ่นดินไหว และหลังจากนั้น 9 เดือน โรแบร์โต้ลืมตาดูโลก เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 19 กันยายน ก็มีแผ่นดินไหวในบ้านเกิดของพวกเขาอีก ต่อจากนั้น 9 เดือน ทั้งคู่ก็ได้มาดูฟุตบอลโลกที่รัสเซีย
32 ปีที่แล้วเม็กซิโกเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ ก็ต้องลุ้นว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยตามเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือไม่
“เวลาที่นักเตะทีมชาติเม็กซิโกบอกว่า พวกเราอยากจะเป็นแชมป์โลก ก็จะโดนวิจารณ์ในด้านลบ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนที่ลงเตะหรือทำหน้าที่อะไรก็ตาม ย่อมต้องมีความเชื่อว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จ” โรแบร์โต้แสดงความเชื่อมั่นในทีม
อีก 8 ปีข้างหน้า ฟุตบอลโลกจะวนกลับไปที่เม็กซิโกอีกครั้ง คราวนี้พ่อลูกกรานาดอสอาจจะได้กอดคอไปเชียร์ทีมจังโก้ในแอซเตก้าด้วยกัน เพื่อเติมเต็มฝันให้สมบูรณ์ขึ้นก็ได้
