“โค้ชเช” เช ยอง ซ็อก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ “น้องเล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ ดีกรีอดีตเหรียญทองแดงลอนดอนเกมส์ปี 2012 ที่อังกฤษ และ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของแชมป์โลกคนล่าสุด ที่รัสเซีย หลังทำผลงานแรงกิ้งโลกติดอยู่ 1 ใน 6 ที่ดีที่สุด จากการแข่งขันเทควันโดเก็บคะแนนสะสมจัดอันดับโลก ที่ประเทศเม็กซิโก จนทำให้ทั้งสองคนได้สิทธิไปร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ปี 2016 รอบสุดท้าย ที่กรุงริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องเลือกเพียงคนเดียวไปแข่งขันนั้น ตัวเองในฐานะเฮดโค้ชของนักกีฬาทั้งสองคนที่อยู่ร่วมกันมานานหลายปี มีความอึดอัดและหนักใจอย่างยิ่งในการพิจารณาเลือกคนใดคนหนึ่งไปโอลิมปิกเกมส์ เพราะทั้งสองคนเปรียบเสมือนเป็นลูกศิษย์รัก ขอให้ทั้ง ชนาธิป กับ พาณิภัค เผื่อใจไว้บ้าง เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผลงานการพัฒนาตัวเองในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้ไปว่า แต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้ง “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ ได้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผสมผสานกับข้อมูลบางอย่างที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ได้ให้ตัวเองเป็นคนฟันธงเพียงคนเดียวว่า ใครได้ไปหรือไม่ได้ไป
โค้ชเชกล่าวอีกว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวนี้ทาง ผศ.พิมล รู้ดีว่า เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งอาจไปมีผลกระทบกระเทือนจิตใจนักกีฬาสำหรับคนที่ไม่ได้ไปโอลิมปิก แต่ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างตัดสินตามเนื้อผ้า เน้นความโปร่งใสยุติธรรมมากที่สุด โดยมีคณะกรรมการกลางเข้ามาตรวจสอบและมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย เพื่อลดความกดดันจากตัวเองในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ดังนั้นทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับ ชนาธิป และ พาณิภัค ว่า จะโชว์ศักยภาพของตัวเองออกมาได้ดีมากน้อยแค่ไหน จุดดีและจุดด้อยต่างๆของทั้งคู่ที่มีอยู่ในเวลานี้ ทำอย่างไรจะให้มันสมดุลดันมากที่สุด จากนั้นทางสมาคมฯภายใต้การนำของ ผศ.พิมล จะเป็นผู้ประกาศรายชื่อ นักเทควันโดเพียงหนึ่้งเดียวเท่านั้นไปล่าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ส่วนตัวก็ขอเอาใจช่วยทั้ง ชนาธิป หรือ พาณิภัค ใครได้สิทธิ์นี้ไปก็ตาม ขอให้ทุ่มเทตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่และดีที่สุด
