ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย โดยทีมชาติไทยอยู่กลุ่มบีร่วมกับ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอิรัก ซึ่งจะคัดเอาอันดับ 1-2 ของกลุ่มเอและบีไปรอบสุดท้ายอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 3 ทั้งสองกลุ่มต้องมาเพลย์ออฟกัน เพื่อหาทีมชนะไปชิงตั๋วกับอันดับ 4 โซนคอนคาเคฟนั้น
“โค้ชซิโก้” นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เปิดเผยว่า แม้ทีมชาติไทยจะถูกมองว่าเป็นม้านอกสายตา และอันดับโลกต่ำที่สุดในรอบนี้ แต่เมื่อสามารถเข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชียได้แล้ว เส้นทางสร้างประวัติศาสตร์ไปสู่ฟุตบอลโลก ถือว่าอีกไม่ไกลเกินเอื้อม ดังนั้นส่วนตัวแล้วก็หวังจะพาทีมชาติไทยคว้าตั๋วไปเวิลด์คัพ 2018 เช่นกัน ไม่ได้จะเป็นเพียงไม้ประดับ หรือเล่นไปนัดต่อนัดเท่านั้น
“เรามาถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชีย ถือว่าเป็นความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว รอบนี้คนอาจมองว่าเราเป็นรองทุกทีม แต่ผมบอกเลยว่า ส่วนตัวหวังจะพาทีมไปฟุตบอลโลกเช่นกัน ไม่ใช่เพียงลงแข่งไปทีละนัด เพราะในรอบนี้ ในกลุ่มมี 6 ทีม คัดทีมอันดับ 1-2 เข้ารอบเลย ส่วนอันดับ 3 ได้ไปเพลย์ออฟ ดังนั้นถือว่าเทียบแล้วเกือบจะ 50-50 เปอร์เซ็นต์กับโอกาสสร้างฝันให้เป็นจริง เราจะเล่นในฐานะทีมเป็นรอง ทำให้ไม่กดดัน ที่สำคัญคือต้องเตรียมทีมไปให้พร้อม และต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าทีมชาติไทยก็มีสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก” กุนซือทีมชาติไทยกล่าว
โค้ชซิโก้ กล่าวอีกว่า ในกลุ่มบี ถือว่าสูสีมาก มองลำบากว่าทีมใดจะคว้าอันดับ 1-2 ซึ่งออสเตรเลีย และญี่ปุ่น อาจชื่อชั้นดี แต่ 3 ทีมตะวันออกกลางก็ไม่ธรรมดา โดยมาถึงรอบนี้แล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นกับทีมชาติไทย ตนจะไม่มองว่าคู่แข่งทีมไหนแกร่งกว่า ทุกทีมล้วนแกร่งเท่ากัน ยากจะคาดเดาผลแต่ละนัด โดยไทยจะไปได้ดีแค่ไหนอยู่ที่ว่าเกมในบ้านจะคว้าชัยได้กี่นัด ส่วนเกมนอกบ้าน บอกยากมากว่า ในแต่ละนัดจะได้กี่แต้ม ทั้งนี้ ในวันที่ 18 เมษายน จะประชุมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯถึงแนวทางการเตรียมทีม ซึ่งคงเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น รวมถึงเรื่องทีมทีจะมาอุ่นเครื่องด้วย
