หลังจากที่ทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี ตกรอบแรกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนับเป็นการตกรอบแรกในรอบ 24 ปี หลังจากนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศว่า “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ได้พิจารณาลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน
ขณะเดียวกัน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องหาเฮดโค้ชทีมแข้ง รุ่นไม่เกิน 23 ปี คนใหม่ เพื่อเตรียมทีมชุดนี้ สำหรับแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งในโซนเอเชียนั้นประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดคัดเลือก รอบสุดท้าย ในศึก 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2020 นั้น
สำหรับกระแสในโลกโซเชียลจากแฟนบอลไทย หลายคนเรียกร้องให้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ เสนาเมือง อดีตกองหน้าทีมชาติไทย กลับมาคุมทีมชาติอีกครั้ง เนื่องจากสมัยซิโก้เคยเป็นกุนซือใหญ่เคยนำทีมช้างศึกสร้างผลงานยอดเยี่ยมไว้หลายรายการ ทั้งแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2 สมัยซ้อน เมื่อปี 2014 และ 2016, เข้ารอบรองชนะเลิศ เอเชี่ยนเกมส์ ปี 2014 ก่อนจะลาออกไปหลังจากคุมทีมชาติไทย บุกแพ้ ญี่ปุ่น 0-4 เมื่อปลายเดือนมีนาคม ปี 2017 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก
ล่าสุด “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในเรื่องผลงานทีมไทยในเอเชี่ยนเกมส์ ตัวเองคงไม่ขอพูดอะไรมาก ทุกคนคงตั้งใจเต็มที่ ส่วนเรื่องกระแสเรียกร้องให้กลับมารับงานทีมชาตินั้น ต้องขอขอบคุณ และรู้สึกดีที่แฟนบอลยังรัก และคิดถึงกัน
อดีตกุนซือทีมชาติไทย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตัวเองมีภาระหน้าที่ใน “มูลนิธิซิโก้” ที่ดำเนินงานในด้านต่างๆ มูลนิธินี้ตั้งมาเมื่อปี 2012 แล้ว ช่วงที่มาคุมทีมชาติไทยก็ว่างเว้นไป และไม่ได้มีเวลามาดูแล ทำให้ปัจจุบันเมื่อว่างจากงานคุมทีมฟุตบอลก็มามุ่งกับมูลนิธิซิโก้เต็มตัว และมีการสอนฟุตบอลเด็กๆ เป็นระยะ ซึ่งก็มีความสุขดี
“มูลนิธิซิโก้ก็ดำเนินการด้านฟุตบอล ดังนั้นผมไม่ได้ทิ้งฟุตบอลไปไหน รู้สึกดี ที่แฟนบอลคิดถึงกัน แต่ขอทำหน้าที่กับมูลนิธิซิโก้ก่อน เรื่องอื่นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยมาคุยกันครับ” ซิโก้กล่าวทิ้งท้าย
