แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะเอฟเวอร์ตันสุดระทึก 2-1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในรอบรองชนะเลิศ ศึกเอฟเอคัพ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา
โดยมารูยาน เฟลไลนี่ อดีตกองกลางท็อฟฟี่เมน เป็นคนทำประตูให้ปีศาจแดงขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 34 จากการเปิดบอลของอ็องโตนี่ มาร์กซิยัล
หลังจากนั้น ดาบิด เด เคอา นายทวารทีมชาติสเปนของแมนฯยูไนเต็ด ก็โชว์ซุปเปอร์เซฟหยุดลูกโทษที่จุดโทษของโรเมลู ลูกากู ได้ในนาทีที่ 66 แต่เอฟเวอร์ตันก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ในนาทีที่ 76 จากการทำเข้าประตูตัวเองของคริส สมอลลิ่ง
แต่ขณะที่เกมทำท่าจะลงเอยด้วยผลเสมอและต้องต่อเวลา มาร์กซิยัลก็เป็นฮีโร่ทำประตูชัยให้ทีมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 ส่งให้ปีศาจแดงเข้าไปลุ้นแชมป์โดยรอพบกับผู้ชนะระหว่างคริสตัล พาเลซ กับวัตฟอร์ด โดยรอบชิงชนะเลิศจะแข่งขันวันที่ 21 พฤษภาคม
ภายหลังการแข่งขัน หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า เป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ เป็นบทสรุปที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งนักเตะและแฟนๆ และคิดว่าเกมนี้ลูกทีมสมควรเป็นผู้ชนะแล้ว
กุนซือชาวดัตช์ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินว่า เกมนี้กรรมการมีบทบาทกับการเปลี่ยนเกมอย่างมาก เพราะไม่เคยเป่าฟาวล์ให้แมนฯยูได้ประโยชน์เลยสักครั้ง ทั้งที่มีหลายจังหวะ แต่กลายเป็นเอฟเวอร์ตันที่ได้ฟาวล์ตลอด