ในเกมลูกหนังระดับนานาชาติ ถือเป็นกติกาสากลที่ผู้รับผิดชอบจะไม่วางตัวทีมผู้ตัดสินซึ่งมาจากชาติใดชาติหนึ่งที่ลงแข่งขัน หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับเกมนั้นลงทำหน้าที่ ยิ่งเป็นเกมระดับฟุตบอลโลกด้วยแล้ว เรียกว่าแทบจะเลือกกรรมการจากคนละทวีปของทีมที่ลงฟาดแข้งเลยทีเดียว
ทราบหรือไม่ว่าเกมฟุตบอลลีกก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลีกที่ความผูกพันระหว่างแฟนๆ กับทีมในท้องถิ่นตัวเองมีค่อนข้างสูง เหมือนอย่างสถานการณ์การลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในขณะนี้
อย่างสัปดาห์ก่อน เควิน เฟรนด์ ผู้ตัดสินชาวเมืองเลสเตอร์ โดนถอดชื่อออกจากการทำหน้าที่คนกลางในนัดที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไปเยือน สโต๊ก ซิตี้ แล้วโยกไปเป่าเกม นิวคาสเซิล เปิดบ้านรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นัดกลางสัปดาห์แทน เนื่องจากตอนนี้สเปอร์สกำลังลุ้นแย่งแชมป์กับ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่นั่นเอง
คีธ แฮคเก็ตต์ อดีตประธานองค์กรผู้ตัดสินอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) ซึ่งทำหน้าที่จัดสรรและวางตัวทีมผู้ตัดสินให้กับพรีเมียร์ลีก เผยว่า ทุกๆ ครั้งก่อนเปิดฤดูกาล ทีมงานจะต้องรวบรวมข้อมูลภูมิหลังผู้ตัดสิน โดยให้กรรมการทุกคนตอบแบบสอบถามว่าเกิดที่ไหน บ้านอยู่เมืองอะไร เชียร์ทีมไหน หรือเคยเล่นฟุตบอลให้กับทีมระดับใดมาบ้างหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาเวลาจัดวางตัวผู้ทำหน้าที่ในแต่ละนัด
วัตถุประสงค์สำคัญนอกจากจะป้องกันการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมแล้ว ยังไม่เป็นการเพิ่มภาระหรือแรงกดดันให้ผู้ตัดสินซึ่งตั้งใจจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางโดยไม่จำเป็นด้วย
มาร์ก ฮัลซีย์ อดีตเชิ้ตดำพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า ตนอาศัยที่เมืองโบลตัน แต่เป็นแฟนบอลของ ควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส ช่วงก่อนจะเปลี่ยนกฎเรื่องห้ามกรรมการตัดสินทีมที่ตัวเองเชียร์ แม้จะไม่เคยเป่าเกมของโบลตันเลย แต่เคยทำหน้าที่ในเกมของคิวพีอาร์ 2 ครั้ง ผลคือชนะ 1 แพ้ 1 ยอมรับว่าเป็นความรู้สึกกดดันมากและได้แต่บอกตัวเองว่าไม่อยากทำแบบนี้อีกแล้ว เช่นเวลาชนะก็อยากร่วมดีใจไปด้วย แต่ทำไม่ได้ และยังต้องคำนึงถึงความเป็นมืออาชีพ สุดท้ายจึงต้องบอกผู้รับผิดชอบไปเพราะรู้สึกอึดอัดมากๆ
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะลงตัวหรือจัดสรรการทำหน้าที่ได้เหมาะสมไปหมดเสียทีเดียว ยกตัวอย่างง่ายๆ ในเกมลีกสัปดาห์ก่อน ทั้งที่เควิน เฟรนด์ แฟนบอล “จิ้งจอกสยาม” อดเป่าเกมของสเปอร์ส แต่ ไมเคิล โอลิเวอร์ ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของ นิวคาสเซิล กลับได้ทำหน้าที่ในเกม นอริช ซิตี้ พบ คริสตัล พาเลซ ทั้งที่นอริชก็เป็นทีมในโซนตกชั้นเหมือนกับสาลิกาดง
และที่น่าสนใจที่สุดคือกรณีของ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ซึ่งแม้จะประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นแฟนบอลของ อัลทรินแชม เอฟซี ทีมระดับดิวิชั่น 5 ของอังกฤษ แต่ก็อาศัยอยู่ในย่านเกรเทอร์ แมนเชสเตอร์ มานาน กระนั้นก็ยังได้เป่าเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมละไม่ต่ำกว่า 10 เกม
ประเด็นเหล่านี้ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือสมองเพชรของ อาร์เซน่อล ต้องออกมาวิจารณ์ว่า ถ้าจะต้องมาปวดหัวกับเงื่อนไขเหล่านี้ คนจัดผังการทำหน้าที่ของกรรมการคงต้องเจอกับฝันร้ายทุกนัดทุกสัปดาห์แน่นอน และเชื่อว่าคงต้องมีหลุดหรือผิดพลาดกันบ้าง ทางที่ดีที่สุดคือ แทนที่จะมานั่งเช็กว่าใครอยู่ที่ไหนหรือเชียร์ทีมอะไร ให้มาพิจารณาที่ความสามารถล้วนๆ เลยดีกว่า
แน่นอนว่าข้อเสนอนี้ย่อมฟังดูดีในแง่อุดมคติ แต่ถ้าฟังเสียงจากใจของมาร์ก ฮัลซีย์ แฟนบอลคิวพีอาร์ที่เคยทำหน้าที่ในเกมของทีมรักมา 2 ครั้งข้างต้น จะเห็นว่าต่อให้พยายามทำใจเป็นกลางอย่างไร ก็ยังไม่พ้นความรู้สึกอึดอัดหรือกดดันอยู่ดี
…ขนาดคนที่ตั้งใจจริงยังขนาดนี้ แล้วถ้าเชิ้ตดำคนไหนเกิดเอียงข้างสุดกู่ขึ้นมา คงไม่เป็นผลดีกับอีกทีมแน่นอน
