ดาโต๊ะ พอลชัวร์ ประธานสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ร่วมด้วย นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเซีย ร่วมประชุมคณะกรรมการสหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชีย ที่โรงแรม ออชิด ปูนเน่ ประเทศอินเดีย ซึ่งมีคณะกรรมการของสหพันธ์ร่วมประชุม
สาระสำคัญของประชุมคือเรื่องการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งประเทศกัมพูชาขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 53 โดยคาดว่าจะจัดระหว่างวันที่ 11-17 กันยายน 2562 ที่ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และเรื่องการเตรียมการของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลกระหว่างวันที่ 11-17 ธันวาคม ที่ จ.เชียงใหม่ ที่ประชุมได้ให้การรับรองประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้
ด้านนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเซีย และนายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นเรื่องทีน่ายินดีที่ทางประเทศกัมพูชาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 53 อีกส่วนคือการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ที่ จ.เชียงใหม่ ในเดือนธันวาคมนี้ ทางที่ประชุมได้ให้การรับรองความพร้อมของประเทศไทยสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ โดยเฉพาะท่านประธานสหพันธ์ดาโต๊ะ พอลชัวร์ ได้มีความสนใจในพัฒนาการกีฬาของเพาะกาย โดยเฉพาะการหยิบยกกิจกรรมเพาะกายเข้าสู่การแข่งขันในระดับมหาวิทยาลัยซึงทางสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสของเอเชีย ก็ให้ความสนใจและส่งเสริมยินดีที่จะสนับสนุนให้มีการจัดการแข่งขันขึ้นในระดับมหาวิทยาลัยทวีปเอเซีย
นายศุกรีย์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องความพร้อมชิงแชมป์โลก ประเทศให้การตอบรับกว่า 60 ประเทศว่าจะไปร่วมการแข่งขันรวมถึงประเทศที่ไม่ได้มาในครั้งนีด้วยคาดว่า ที่ จ.เชียงใหม่ ในครั้งนี้ประเทศที่จะเข้าร่วมจะมาไม่น้อยกว่า 60 ประเทศ และในการเป็นเจ้าภาพฝ่ายการแพทย์ของสหพันธ์เพาะกายเอเชีย โดย นพ.จตุรพร ณ นคร ซึ่งเป็นประธานฝ่ายการแพทย์ของสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียยจะจัดให้มีการให้ความรู้ในเรื่องการต่อต้านสารต้องห้ามซึ่งเป็นสาระสำคัญที่สหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ให้ความสนใจเรื่องการต่อต้านสารต้องห้ามด้วยเช่นกัน
