คณะลูกขุนลงมติที่ศาลเมืองแวร์ริงตัน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 26 เมษายน ว่า กองเชียร์สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลที่เสียชีวิตจากโศกนาฎกรรม “ฮิลล์สโบโร่” ปี 1989 ถึง 96 ศพ ได้เสียชีวิตโดยมิชอบ และตำหนิการทำหน้าที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว
เหตุสลดเกิดขึ้นในเกมเอฟเอคัพเมืองผู้ดีรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 1988-89 ระหว่างทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่แข่งกันในสนามกลางอย่างฮิลล์สโบโร่ ของสโมสรเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ เมืองเชฟฟิลด์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 1989
หลังมีการปล่อยให้แฟนบอลลิเวอร์พูลเข้าไปในอัฒจันทร์ด้านหลังประตูฝั่งทิศตะวันตกเกินความจุเป็นจำนวนมาก ซึ่งยุคนั้นยังไม่มีกฎว่าทุกสนามจะต้องเป็นอัฒจันทร์แบบเป็นที่นั่ง และมีรั้วกั้นไม่ให้กองเชียร์วิ่งลงไปในสนาม ก่อนจะมีการเบียดเสียดจนเสียหลักเหยียบกันเองของแฟนบอลบางส่วนที่ถูกคนด้านหลังดันไปติดรั้วกั้นสนาม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในวันดังกล่าวทันที 94 ศพ และเสียชีวิตเพิ่มในเวลาต่อมาอีก 2 ศพ บาดเจ็บ 766 คน
โดย “เดอะ ซัน” เป็นสื่ออังกฤษที่รายงานว่า สาเหตุโศกนาฎกรรมเกิดจากการที่บรรดา “เดอะ ค็อป” บางส่วนดื่มเบียร์ก่อนเริ่มเกมจนมีอาการเมา และเป็นฝ่ายพยายามเข้าไปในอัฒจันทร์เกินความจุ แถมระหว่างเกิดความวุ่นวายในการตัดรั้วกั้นเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บออกมาปฐมพยาบาลในสนามฟุตบอลด้านล่าง ก็ยังมีกองเชียร์หงส์แดงใช้โอกาสดังกล่าวขโมยเงินจากผู้โชคร้ายด้วยกันเองอีกด้วย
ส่งผลให้คนในเมืองลิเวอร์พูลไม่พอใจข่าวเป็นอย่างมาก และแบนไม่ซื้อหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน จนถึงปัจจุบัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก “เซาธ์ ยอร์กเชียร์” ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นกำลังหลักในวันนั้นต่างให้การตำหนิแฟนบอลลิเวอร์พูล และศาลได้ตัดสินว่าเป็นการตายจากอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน 2012 หรืออีก 23 ปีต่อมา เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้แถลงการณ์ขอโทษกองเชียร์ลิเวอร์พูล หลังได้รับหลักฐานว่าชัดเจนว่าไม่ใช่ความผิดของแฟนบอล และเริ่มมีการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม 2014 ที่ศาลเมืองแวร์ริงตัน
ก่อนคณะลูกขุนจะมีมติลงความเห็นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2016 ว่ากองเชียร์ลิเวอร์พูลเสียชีวิตโดยมิชอบ และตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับเป็นบทสรุปการเรียกร้องความยุติธรรมของ “เดอะ ค็อป” ที่ยาวนานถึง 27 ปี
