ความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยคณะกรรมการกลาง สมาคมฟุตบอลฯ (FAT NC) ที่มี “เสธ.โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ เป็นประธาน ซึ่งแต่งตั้งโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ดำเนินการจัดเลือกตัวแทน 30 เสียงลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ไปแล้วนั้น
“โค้ชหรั่ง” ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ยังสงสัยกระบวนการในการเลือก 30 เสียงนั้น ควรจะใช้ข้อบังคับลีกภูมิภาคหรือไม่ และควรให้ประธานลีกภูมิภาคแต่ละโซนดำเนินการหรือไม่ ขณะเดียวกันการเลือกตัวแทนลีกภูมิภาคควรใช้วิธิใด หากจะโหวตแล้วผู้มีสิทธิมาลงคะแนน ต้องมาลงคะแนนเกินกึ่งหนึ่งของทั้งหมด 83 สโมสร หรือกึ่งหนึ่งของแต่ละภูมิภาคหรือไม่ ทั้งนี้ ตัวเองเข้าใจว่า คณะกรรมการกลางน่าจะมีหน้าที่เพียงจัดเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ และสภากรรมการเพียงเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ผู้สมัครชิงประมุขลูกหนังไทยหลายคนเกิดข้อสงสัยทั้งตัวเอง, “บิ๊กหอย” นายธวัชชัย สัจจกุล และนายพินิจ สะสินิน
อดีตเฮดโค้ชทีมชิาตไทยกล่าวต่อว่า เกรงว่าหากดำเนินกันต่อไปแบบนี้ก็อาจทำให้ความขัดแย้งไม่จบ และอาจเกิดปัญหาฟ้องร้องขึ้นมาอีก ซึ่งมีโอกาสส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อวงการฟุตบอลไทย ดังนั้น จึงขอเสนอความคิดเห็นไปถึงคณะกรรมการกลางว่าก่อนจะถึงวันเลือกตั้งวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ควรเชิญผู้สมัครทุกคน รวมถึงทุกสโมสรสมาชิกทั้งที่มีสิทธิลงคะแนน และไม่มีสิทธิมาทำความเข้าใจ และหาข้อตกลงร่วมกันถึงกติกา โดยหากทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าถูกต้องแล้ว ตัวเองก็รับได้ แต่หากผิดตรงไหนหรือมีอะไรที่ไม่ดีก็หาทางแก้ไขร่วมกัน
“อย่างเช่นการเลือก 30 เสียงลีกภูมิภาค ถ้าส่วนใหญ่เห็นว่าควรใช้ที่เลือกไปล่าสุด ผมก็ไม่มีปัญหาหรือถ้ามีเสนอกันว่าจะใช้แรงกิ้งเมื่อจบฤดูกาล หรือถ้าโหวตจะใช้ข้อบังคับลีกภูมิภาค เราก็เคลียร์กันให้จบก่อนแล้วค่อยเลือก เชื่อว่ายังไงก็ทันเดดไลน์ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ของฟีฟ่า” โค้ชหรั่งกล่าว
ส่วนกรณีที่หากคณะกรรมการกลางยังยืนยันทำตามขั้นตอนเดิมต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งหรือไม่ ดร.ชาญวิทย์กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ตัวเองยังตอบชัดเจนไม่ได้ว่าจะเอาอย่างไร คงต้องขอปรึกษาผู้สมัครรายอื่นเสียก่อนแล้วจึงตัดสินใจ
