ทำไม ‘โปรเม’ ยังไม่คืนมือ 1 โลก?

ถึงขั้นที่ แอลพีจีเอ  ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องการคิดคะแนนอันดับโลกนักกอล์ฟหญิงกันล่วงหน้าก่อนการจัดอันดับจริง 1 วัน เพื่อยืนยันว่า  “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล”  จะยังรั้งมือ 2 ของโลกต่อไป โดยมีแต้มตามหลัง ปาร์ก ซอง ฮยอน โปรสาวชาวเกาหลีใต้ 0.0777 คะแนน

ถ้อยแถลงดังกล่าวทำเอาแฟนกอล์ฟทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าไปบ่นในโซเชียลของแอลพีจีเอทัวร์กันหลายคนในทำนองเดียวกันว่า ควรมีการทบทวนเรื่องระบบคิดคะแนนใหม่ หรือไม่ก็ควรลดความสับสนเรื่องเงื่อนไขความน่าจะเป็นต่างๆ

เพราะในแง่ความสม่ำเสมอนั้น ยังไงปีนี้โปรเมก็เหนือกว่าปาร์ก ซอง ฮยอน ทุกประตู เนื่องจากทุกวันนี้สาวไทยนำเป็นอันดับ 1 สารพัดสถิติของแอลพีจีเอ ทั้งเงินรางวัลสูงสุด, คะแนนสะสมนักกอล์ฟยอดเยี่ยม, คะแนนสะสม “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ”, สกอร์เฉลี่ยต่ำสุด, จำนวนเบอร์ดี้ และการจบอันดับท็อปเท็นสูงสุด

เท่านั้นไม่พอ รายการล่าสุดที่เซี่ยงไฮ้เพิ่งคว้าอันดับ 2 ร่วม เป็นการติดท็อปเท็นรายการที่ 15 ของปี ขณะที่ปาร์กจบที่ 26 ร่วม ปีนี้จบท็อปเท็น 6 รายการ แม้จะได้ 3 แชมป์เท่าโปรเม แต่ไม่ผ่านตัดตัวถึง 7 รายการ

Advertisement

ไม่ว่ามองจากมุมไหน สาวไทยก็น่าจะเหมาะกับตำแหน่งเบอร์ 1 ของโลกมากกว่า แล้วทำไมถึงไม่เป็นอย่างนั้น?

สาเหตุหลักของเรื่องนี้ก็คือระบบการคิดคะแนนของกีฬากอล์ฟที่ค่อนข้างจะละเอียดและซับซ้อนเอามากๆ นั่นเอง

กอล์ฟหญิงเริ่มจัดอันดับโลกครั้งแรกในปี 2006 โดยจะนำผลแข่งรายการเมเจอร์กับ 8 ทัวร์หลักทั่วโลกมาคิดคะแนน

Advertisement

แต่คะแนนของกีฬากอล์ฟไม่ใช่แค่การบวกคะแนนที่ได้จากแต่ละรายการทบไปเรื่อยๆ เหมือนหลายๆ ชนิดกีฬา แต่เป็นการคำนวณ “คะแนนเฉลี่ย” ที่นำคะแนนรวมทั้งหมดมาหารด้วยจำนวนทัวร์นาเมนต์ที่ร่วมแข่งขัน โดยเก็บคะแนนย้อนหลังกินเวลา 2 ปี (ไม่ใช่ปีเดียวแบบเทนนิส)

การคิดคะแนนแบบนี้ คนออกกฎมองว่าเพื่อความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ใช่นักกีฬาขยันร่วมแข่งขันมากรายการแล้วเก็บเล็กผสมน้อยจนไต่อันดับโลกทั้งที่ผลงานจริงๆ อาจจะไม่ดีนัก การใช้คะแนนเฉลี่ยจึงน่าจะสะท้อนภาพผลงานโดยรวมได้ดีกว่า (โดยกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำว่า นักกอล์ฟหญิงต้องเข้าแข่งอย่างน้อย 35 รายการในระยะเวลา 2 ปี ถ้าแข่งน้อยกว่านั้นก็ต้องเอาเลข 35 เป็นตัวหาร ส่วนผู้ชายเป็น 40 รายการ)

แต่การคำนวณคะแนนของกีฬากอล์ฟยังเพิ่มความซับซ้อนมากขึ้น เพราะการเก็บคะแนน 2 ปีนั้น จะให้ความสำคัญกับผลงาน 13 สัปดาห์ล่าสุดมากที่สุด คือเอาคะแนนที่ได้มาคิดแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถ้าถอยหลังไปไกลกว่านั้นจะต้องลดทอนคะแนนลงไปสัปดาห์ละ 1 ส่วน 92 หรือประมาณ 1.09 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งย้อนไปไกล คะแนนที่จะเอามาเป็นตัวตั้งยิ่งลดลง

หมายความว่าถ้าจะหวังให้คะแนนสูงๆ ยิ่งต้องทำผลงานในช่วงปัจจุบันให้ดีที่สุด จะหวังกินบุญเก่าอย่างเดียวไม่ได้

ความวุ่นวายของการคำนวณอันดับโลกนักกอล์ฟยังไม่หมดแค่นั้น เพราะคะแนนของแต่ละรายการไม่ได้ตายตัวเท่าๆ กันตามระดับของทัวร์นาเมนต์แบบกีฬาเทนนิสหรือแบดมินตันที่แบ่งเทียร์ 1-2-3 แต่จะใช้วิธีวัดจากฝีมือของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด

ระดับฝีมือของนักกอล์ฟจะเรียกว่า “เรตติ้ง” มือ 1 ของโลกมีเรตติ้ง 45, มือ 2 โลกมีเรตติ้ง 37, มือ 3 โลกมีเรตติ้ง 32 และลดหลั่นลงเรื่อยๆ ถึงอันดับ 101-200 มีเรตติ้ง 1 เท่ากัน ส่วนอันดับแย่กว่านั้นไม่มีเรตติ้ง

เวลามีการแข่งขันทีก็จะดูว่ามีนักกอล์ฟมืออันดับเท่าไรของโลกแข่งบ้าง แล้วเอาเรตติ้งมารวมกัน กลายเป็นคะแนนรวมของรายการนั้น แล้วค่อยกำหนดว่าแต่ละอันดับจะได้เท่าไร ยกเว้นรายการใหญ่อย่างระดับเมเจอร์ที่จะมีคะแนนตายตัวฟิกซ์ไว้อยู่แล้ว

การกำหนดเรตติ้งขึ้นมาก็ด้วยมองว่านักกอล์ฟมือดีบางคนไปเล่นรายการไม่ใหญ่ คู่แข่งอันดับโลกไม่สูง ย่อมมีโอกาสลุ้นทำผลงานได้ดีกว่าการเจอกับมือแข็งๆ ด้วยกัน ดังนั้น คะแนนตอบแทนที่จะได้ก็ควรต่ำไปด้วยนั่นเอง

ด้วยสารพันเงื่อนไขทั้งหมดข้างต้น ทำให้การคำนวณคะแนนของกอล์ฟเกิดกรณีชวนงงหลายครั้ง เช่นเมื่อปี 2015 รอรี่ แม็คอิลรอย โปรชายชาวไอร์แลนด์เหนือเคยขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก ทั้งที่อยู่ระหว่างพักการแข่งขัน เพราะ จอร์แดน สปีธ มือ 1 โลกเวลานั้นไม่ผ่านตัดตัวรายการใหญ่

ส่วนกรณีของโปรเม เหตุผลสำคัญซึ่งทำให้นักกอล์ฟสาวไทยยังไม่กลับไปเป็นมือ 1 ของโลก รวมถึงการอยู่บนบัลลังก์มือ 1 ของโลกทั้ง 2 รอบที่ผ่านมาค่อนข้างสั้น นับรวมได้ 5 สัปดาห์ เพราะโปรเมลงแข่งขันค่อนข้างถี่ ทำให้ตัวหารเยอะกว่าคนอื่นๆ ในอันดับท็อป 5 ของโลกด้วยกัน

ในการจัดอันดับโลกล่าสุดวันที่ 22 ตุลาคม โปรเมอยู่อันดับ 2 มีคะแนนเฉลี่ย 8.03 คะแนน โดยมีคะแนนรวม 449.56 คะแนน จากการร่วมแข่งขัน 56 รายการ ขณะที่ปาร์ก ซอง ฮยอน มือ 1 ของโลกมีคะแนนเฉลี่ย 8.11 คะแนน โดยมีคะแนนรวม 389.07 คะแนน จาก 48 รายการ

จากอันดับท็อป 10 ของโลก โปรเมลงแข่งขันมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก บรู๊ก เฮนเดอร์สัน โปรแคนาเดียน 2 รายการ ขณะที่ ปาร์ก อินบี อดีตมือ 1 โลกชาวเกาหลีใต้ ช่วงหลังมีปัญหาบาดเจ็บบ่อย ทำให้ลงแข่งขันไม่มากนัก แต่ความที่ลงแข่งแต่ละทีผลงานค่อนข้างดีจึงมีคะแนนรวม 247.13 คะแนน กับตัวหาร 35 (เกณฑ์ต่ำสุดแม้จะแข่งไม่ถึง) มีคะแนนเฉลี่ย 7.06 คะแนน อยู่อันดับ 4 ของโลก

แน่นอนว่าระบบการคิดคะแนนของกีฬากอล์ฟเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่ายังไม่สามารถสะท้อนภาพผลงานโดยรวมของนักกอล์ฟระดับโลกในเวลานั้นๆ ได้ดีเท่าที่ควร แต่อีกฝ่ายก็แย้งว่าวิธีนี้ค่อนข้างซับซ้อนและบริสุทธิ์ยุติธรรมกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆ กีฬา

ตราบใดที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกา แฟนกอล์ฟชาวไทยที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับภาพสะท้อนอันดับโลกที่ออกมา คงต้องลุ้นกันไปสัปดาห์ต่อสัปดาห์ว่าโปรเมจะกลับคืนบัลลังก์ได้เมื่อใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image