“เดอะ ซัน” สื่อประเทศอังกฤษ ที่เคยพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ตัวเอง หลังเหตุการณ์โศกนาฎกรรม “ฮิลล์สโบโร่” เมื่อวันที่ 15 เมษายน 1989 ได้เพียง 4 วันว่า “ความจริง” ที่ฮิลล์สโบโร่ ก็คือแฟนบอลลิเวอร์พูลขโมยทรัพย์สินกองเชียร์ที่บาดเจ็บ และล้มตายด้วยกันเอง, แฟนบอลอันธพาลลิเวอร์พูลปัสสาวะใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำร้ายเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่พยายามช่วยชีวิตแฟนบอลที่มีอาการสาหัส
ทั้งที่มีกองเชียร์ทีม “หงส์แดง” เสียชีวิตจากการเสียหลักล้มแล้วเหยียบกันเอง รวมทั้งเบียดเสียดกันตาย และถูกอัดกับรั้วกั้นขอบสนามด้านหลังประตูฝั่งทิศตะวันตกของสนามฮิลล์สโบโร่ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ในเกมเอฟเอคัพเมืองผู้ดีรอบรองชนะเลิศกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึง 96 ศพ และบาดเจ็บอีก 766 คน ส่งผลให้ชาวเมืองลิเวอร์พูลโกรธแค้นเป็นอย่างมาก และแบนไม่ซื้อหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน ในเมืองลิเวอร์พูลมาจนถึงทุกวันนี้
ล่าสุด หลังคณะลูกขุนศาลเมืองแวร์ริงตัน มีมติให้การพิจารณาคดีฮิลล์สโบโร่ที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจให้มีการรื้อฟื้นคดี เพื่อมาพิจารณาคดีกันใหม่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2014 เป็นต้นมา หลังได้รับหลักฐานชัดเจนว่าไม่ใช่ความผิดของแฟนบอลที่พยายามเบียดกันเข้าไปในอัฒจันทร์ฝั่งดังกล่าว จนศาลเคยตัดสินว่าเป็นการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ เป็นการเสียชีวิตโดยมิชอบ และตำหนิการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ “เซาธ์ ยอร์กเชียร์” ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นกำลังหลักในวันนั้นว่า มีส่วนทำให้กองเชียร์หงส์แดงเสียชีวิตถึง 41 ราย
แต่เดอะ ซัน ที่เคยลงข่าวหน้าหนึ่งขอโทษเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ หลังรัฐบาลของประเทศเปิดเผยหลักฐานสำคัญว่าไม่ใช่ความผิดของแฟนบอลลิเวอร์พูลเมื่อเดือนกันยายน 2012 กลับไม่มีข่าวที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินของคณะลูกขุนในคดีฮิลล์สโบโร่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ตัวเองในวันรุ่งขึ้นที่ 27 เมษายน แม้สุดท้ายจะมีข่าวนี้ 2 หน้าเต็มๆ ในหน้าที่ 8 และ 9 ก็ตาม
