‘มงคล’ สุดปลื้ม ‘ราเยวัช’ เชื่อมั่นฝีเท้า กร้าวพาทัพ ‘ช้างศึก’ เถลิงแชมป์ ‘เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ’

ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ชุดทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รายการ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” ซึ่งนัดแรกทีมชาติไทยประเดิมสนามรอบแรกด้วยการเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน ถล่มชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0

โดยโปรแกรมนัดต่อไปทีมชาติไทยยังได้เล่นในบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 17 พฤศจิกายน เวลา 18.30 น. ถ่ายทองสดช่อง 7 HD นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน “โค้ชมิโล่” มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยชาวเซิร์บได้นำนักเตะกลุ่มมาร่วมฝึกซ้อมตามปกติ ที่สนามวินด์มิลล์ ฟุตบอลคลับ อีกครั้งหลังจากได้ปล่อยให้นักเตะกลับไปพักผ่อนกับครอบครัวเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยการฝึกซ้อมได้เน้นเรื่องฟื้นฟูสภาพร่างกาย และทบทวนแท็กติคเตรียมความพร้อมสำหรับการลงเตะนัดที่สองพบกับ อินโดนีเซีย

ช้างศึกในฐานะแชมป์เก่าเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้ยอดเยี่ยม ด้วยการถล่มชนะ ติมอร์ เลสเต ถึง 7-0 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ก่อนที่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน มิโลวาน ราเยวัช ได้ปล่อยลูกทีมพักผ่อน เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างเต็มที่ และล่าสุดแข้งไทยได้กลับมารวมตัวฝึกซ้อมกันอีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก เน้นไปที่ความสมดุล ทั้งเกมรุกและเกมรับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะที่ช่วงเย็นวันนี้ มิโลวาน ราเยวัช จะนำทัพช้างศึก ลงฝึกซ้อมต่อทันที

Advertisement

“จ่าเย็น” มงคล ทศไกร ปีกขวาทีมชาติไทยวัย 31 ปี เปิดเผยว่า ขอบคุณ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนที่ยังมอบความเชื่อมั่นให้เสมอหลังได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในเกมชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0 ซึ่งการเล่นเกมแรกไม่ง่ายเลย แต่ทุกคนก็ทำผลงานกันได้ดี แน่นอนว่า การเริ่มต้นแบบนี้ก็ทำให้เราทั้งทีมมีความมั่นใจมากขึ้น ขณะที่การเป็นตัวจริงก็ต้องขอบคุณโค้ชที่ยังให้โอกาส และมอบความเชื่อมั่นเสมอ

“โค้ชรู้ว่า ผมเป็นหนึ่งในคนที่ถูกวิจารณ์ตลอด แต่โค้ชก็พยายามบอกผมว่า ถ้าได้โอกาสแล้วลงไปเล่นให้เต็มที่ และสนุกก็พอ แน่นอนว่า ในฐานะนักฟุตบอลคนหนึ่ง คำพูดเหล่านี้ ช่วยผมได้เยอะจริงๆ ครับ ส่วนผลนัดแรกผมเข้าใจที่หลายคนบอกว่า ยังวัดอะไรมากไม่ได้ แต่การชนะด้วยสกอร์ขนาดนี้ และไม่เสียประตูก็เป็นขวัญกำลังใจที่ดีสำหรับเราครับ ส่วนตัวผมแม้จะทำแอสซิสต์ได้ แต่ยังไม่พอใจฟอร์มตัวเองหลายจังหวะ ผมคิดว่ายังทำไม่ดีพอ ดังนั้น ผมจะพยายามทำงานให้หนักขึ้น และพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้นกว่านี้”

จ่าเย็นกล่าวอีกว่า ตัวเองไม่ใช่นักฟุตบอลที่เก่งอะไร แต่คิดว่าที่ได้โอกาสลงสนามน่าจะเป็นเพราะพยายามเล่นตามคำสั่งโค้ชให้มากที่สุด หรือใกล้เคียงที่สุด เพราะถ้าเราเล่นตามแผนที่โค้ชวางไว้แล้ว เราก็มีโอกาสที่จะชนะ ที่สำคัญ น่าจะเป็นเรื่องความทุ่มเทด้วย ทุกครั้งที่อยู่ในสนามจะพยายามวิ่งช่วยทีมให้ได้มากที่สุด ดังนั้นถ้าได้รับโอกาสจากโค้ชอีกก็จะทุ่มเทเหมือนที่ผ่านมาอยู่แล้ว

Advertisement

“แม้ว่าผมจะเคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ผมยังรู้สึกกระหายเหมือนเดิมครับ ไม่ใช่เพียงเพราะว่า ผมกระหายที่จะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 แต่ผมมีความกระหาย ทุกครั้ง ที่มีโอกาสรับใช้ ทีมชาติไทย ซึ่งเป็นความภูมิใจที่สุดในชีวิตของผม” มงคล กล่าวปิดท้าย

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันที่เหลือของทีมชาติไทยในรอบแรกอีก 3 นัด ประกอบด้วย
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ อินโดนีเซีย เวลา 18.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ฟิลิปปินส์ พบ ไทย เวลา 18.30 น. ณ สนามปานาอัด สเตเดียม
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ สิงคโปร์ เวลา 19.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image