นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสร “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อมด้วย “เสี่ยเป้” นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว “โค้ชเบ๊” นายไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก เข้ามาเป็นเฮคโค้ชคนใหม่ ด้วยสัญญา 1 ปี บวกออฟชั่น พร้อมกับเปิดตัว มาริโอ ยูรอฟสกี้ ดาวเตะชาวมาซิโดเนีย กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง ด้วยสัญญา 1 ปี บวกออฟชั่นเช่นกัน ที่ห้องแถลงข่าวเอสซีจี สเตเดียม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน
นายรณฤทธิ์ กล่าวว่า โค้ชเบ๊ที่คนที่ทางสโมสรให้ความชื่นชม ติดตามผลงานมานาน และอยู่ในสายตามาโดยตลอด ซึ่งบอร์ดบริหารสโมสรได้มติในการคว้าตัวโค้ชเบ๊เข้ามาคุมทีมในปีนี้ โดยโค้ชเบ๊ยืนยันว่าจะเข้ามาทำทุมให้มีสไตล์การเล่นเอนเตอร์เทน สนุกตื่นเต้นเร้าใจ และแน่นอนว่าเป้าหมายในปีนี้คือการคว้าทุกแชมป์ให้ได้
“โค้ชเบ๊เข้ามาคุมทีมในช่วงเวลาเหมาะสมที่สุด ซึ่งปีนี้เราจะผสมผสานผู้เล่นด้วยการดึงนักเตะหลักอย่าง มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา และอุ้ม ธีราทร บุญมาทัน กลับจากการค้าแข้งเจลีก ญี่ปุ่น มาช่วยทีม รวมกับ ยูรอฟสกี้ นักเตะต่างชาติ และนักเตะในโครงสร้างอะคาเดมี นำมาผสมกันในยุคเจเนเรชั่นใหม่ที่จะมีความดุดันและน่ากลัวมากที่สุดในปีนี้” นายรณฤทธิ์กล่าว
ขณะที่ โค้ชเบ๊ กล่าวว่า แนวทางการทำทีมจะผสมผสานผู้เล่น 2 ชุด ทั้งตัวหลัก และตัวเยาวชน เชื่อว่าหากทำได้ลงตัวก็น่าจะทำได้ตามเป้าหมาย ซึ่งตามนโยบายสโมสรแน่นอนว่าจะทำทีมเพื่อไล่ล่าทุกแชมป์ และจะต้องมีสไตล์ด้วย ก็คือชนะแล้วต้องเล่นดีด้วย การก้าวขึ้นมาคุมทีมใหญ่อย่างเมืองทองนั้น อยากให้มองว่าจริงๆ แล้วไม่ว่าจะคุมทีมเล็ก หรือทีมใหญ่ ฟุตบอลก็คือฟุตบอลที่เป็นกลมๆ เหมือนกัน แต่ถ้าตัวเองไปคุมทีมไหนก็ต้องทำให้ทีมนั้นดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของทีมให้ดีขึ้น
“การมาคุมทีมเมืองทองนั้น สั้นๆ ครับ กดดันครับ แต่เข้าใจธรรมชาติของทีมที่มีเป้าหมายลุ้นทุกแชมป์อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ก็ยังไม่ใช่ครั้งที่กกดันที่สุดในชีวิต เพราะครั้งที่กดดันที่สุดผ่านมาแล้ว แต่ไม่บอกว่าที่ไหนครับ ส่วนนักเตะในใจได้เลือกไว้แล้วครับก็คือนักเตะเมืองทองที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นนักเตะคุณภาพดีที่ในชีวิตผมไม่เคยจะมีโอกาสได้คุม เพราะฉะนั้นสิ่งที่สโมสรเลือกดีที่สุดแล้วครับ” โค้ชเบ๊ กล่าวทิ้งท้าย
