ฟุตบอลเจลีก 2018 ของประเทศญี่ปุ่น นัดรองสุดท้ายของฤดูกาล กลับมาแข่งขันกันอีกครั้งหลังจากเบรกให้กับทีมชาติในช่วงฟีฟ่าเดย์ โดยจะกลับมาแข่งขันกันในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน เตะพร้อมกัน 9 คู่ ตามเวลาไทย 12.00 น.
เกมที่น่าสนใจอยู่ที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ต้นสังกัดของ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะยกทัพเยือน จูบิโล่ อิวาตะ ถ่ายทอดสดทรูสปอร์ต เอชดี 2 โดยคอนซาโดเล่ รั้งอันดับ 4 มี 51 แต้ม ต้องบุกเก็บชัยให้ได้ แล้วลุ้นให้ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส อันดับ 3 บุกเสมอ หรือ แพ้ เวกัลตะ เซนได จะทำให้มีโอกาสลุ้นพื้นที่ไปเพลย์ออฟ รอบสาม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2019
สำหรับเกมนี้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะได้ เจย์ โบธรอยด์ พ้นโทษแบนกลับมายืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า อีกทั้งจะได้ โยชิอากิ โคมาอิ กลับมาลงสนามทางวิงแบ๊กขวา โดยจะมี “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยืนทางปีกซ้าย และโคจิ มิโยชิ เป็นริมเส้นฝั่งขวา
ขณะที่ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ต้นสังกัดของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา จะเปิดรังพบ นาโกย่า แกรมปัต เอช ซึ่งสถานการณ์ของซานเฟรซเช่ รั้งรองจ่าฝูง ห่างจากอันดับ 3 คาชิมา แอนท์เลอร์ส อยู่ 4 แต้ม โดยเกมนี้พลพรรคธนูม่วงหวังเก็บชัยชนะเพื่อการันตีการจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์
แต่ ซานเฟรซเช่ ไม่ชนะใครมา 8 เกมติดรวมทุกรายการ โดยเกมนี้คาดว่า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา มีโอกาสออกสตาร์ทตัวจริง ซึ่งหากซานเฟรซเช่จบเป็นรองแชมป์จะได้สิทธิไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมปี้ยนส์ลีก 2019
ด้าน วิสเซล โกเบ สโมสรของ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน มีคิวบุกเยือน ชิมิสุ เอส พัลส์ ถ่ายทอดสดช่องทรูสปอร์ต 6 โดยความพร้อมเกมนี้ ธีราทรมีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงต่อเนื่องในตำแหน่งแบ๊กซ้ายตามเดิม
ส่วนคนอื่นมียังมีทั้ง ฮิโรฟูมิ วาตานาเบะ ยืนเป็นปราการหลังร่วมกับ เลโอ ซาซากิ และยาสเซอร์ อาเหม็ด กองหลังทีมชาติกาตาร์ นอกจากนี้ อันเดรส อิเนียสต้า อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน พร้อมที่จะลงสนามปั้นเกมร่วมกับ ลูคัส โพโดลสกี้ อดีตศูนย์หน้าทีมเยอรมนี
สถานการณ์ของ วิสเซล โกเบ อยู่อันดับ 12 มี 41 แต้ม เท่ากับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส และจูบิโล อิวาตะ แต่มี 4 แต้ม เหนืออันดับ 16 นาโกย่า แกรมปัต เอช ที่เป็นทีมสุดท้ายที่ตกชั้น ซึ่งหาก วิสเซล โกเบ บุกชนะ ชิมิสุ เอส พัลส์ ได้ก็จะรอดตกชั้นทันที
