เป็นที่แน่นอนแล้วว่านักแบดมินตันไทยสามารถคว้าสิทธิ์เข้าไปทำศึกใหญ่ปิดท้ายปีรายการ “เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์2018” ได้ถึง 4 ประเภท ซึ่งจะแข่งขันที่นครกว่างโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 12-16 ธันวาคม ถึงแม้จะมีการตัดคะแนนสะสมในวันที่ 7 ธันวาคมก็ตาม
นักตบขนไก่ไทยที่ได้ไปลุ้นแชมป์ในศึกใหญ่ ได้แก่ ชายเดี่ยว “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มือ 17 ของโลก, หญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 8 ของโลก, หญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล – “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือ 8 ของโลก, คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์– “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ7 ของโลก ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ที่นักกีฬาแบดมินตันไทย สามารถคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันได้ถึง 4 ประเภท
สำหรับคะแนน “เอชเอสบีซี เรซ ทู กว่างโจว” หรืออันดับคะแนนสะสมเพื่อไปแข่งศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ จะคัดเอา 8 คนที่ดีที่สุด จากผลงานในรายการเวิลด์ทัวร์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับอันดับโลก และจะนับคะแนนในรายการ “ไซเอด โมห์ดี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2018” ที่จะจบลงในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้เป็นรายการสุดท้าย ทำให้อันดับต่างๆ แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว
ในประเภทชายเดี่ยว กันตภณเพิ่งโดนเบียดลงมาอยู่อันดับ 6 ของตารางคะแนน แต่ก็ยังดีพอที่จะได้เป็น 1 ใน 8 คนสุดท้าย ได้แข่งขันเป็นครั้งแรกในรายการนี้
ขณะที่หญิงเดี่ยว รัชนกขยับจากอันดับ 6 เป็นอันดับ 5 หลังจากเพิ่งคว้ารองแชมป์รายการเวิลด์ทัวร์ 300 ที่ประเทศอินเดีย มาเมื่อไม่กี่วันก่อน และได้สิทธิ์มาลุ้นแชมป์เป็นครั้งที่ 6 แล้ว
ส่วนหญิงคู่ จงกลพรรณ – รวินดา ถึงจะตกจากที่ 4 มาเป็นที่ 5 แต่คะแนนยังทิ้งห่างคู่อันดับ 9 กว่า 10,000 แต้ม คว้าสิทธิ์ไปเล่นแน่นอนแล้ว ถือเป็นครั้งแรกของทั้งคู่เช่นกัน
มาถึงคู่ผสม เดชาพล – ทรัพย์สิรี ถือว่าเป็นนักตบขนไก่ไทยที่อันดับคะแนนสะสมดีที่สุดในทุกประเภท อยู่ในอันดับ 3 ของตารางเอชเอสบีซี เรซ ทู กว่างโจว มาพักใหญ่ เพราะในช่วงหลังสามารถทะลุเข้าถึงรอบลึกๆ ได้หลายรายการ ทำให้เข้ามาแข่งขันในรายการนี้เป็นครั้งแรกของทั้งคู่
6 รายการหลังสุด หลังจบศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 เมื่อเดือนกันยายน บาส-ปอป้อช่วยกันบู๊จนเข้าชิงชนะเลิศ 1 รายการ คือ เวิลด์ทัวร์ 750 ดานิซ่า เดนมาร์ก โอเพ่น ที่ประเทศเดนมาร์ก ก่อนจะไปแพ้เจิ้ง ซีเหว่ย – หวง ย่าเฉียง คู่มือ 1 ของโลกจากจีน ที่นำอันดับ 1 ในตารางเอชเอสบีซี เรซ ทู กว่างโจว
รวมทั้งเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ 3 รายการ เวิลด์ทัวร์ 500 วิคเตอร์ โคเรีย โอเพ่น ที่ประเทศเกาหลีใต้, เวิลด์ทัวร์ 750 โยเน็กซ์ เฟร้นช์ โอเพ่น ที่ประเทศฝรั่งเศส, เวิลด์ทัวร์500 โยเน็กซ์ ซันไรส์ ฮ่องกง โอเพ่น ที่ฮ่องกง
สำหรับคู่แข่งบาส-ปอป้อที่จะได้เจอกันในศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2018 การันตีแล้วว่าจะเป็นนักแบดมินตันจากเอเชียล้วนๆ จนถึงตอนนี้ระบุได้แน่นอนแล้วว่า อันดับ 1-7 ประเภทคู่ผสม ในตารางคะแนนเอชเอสบีซี เรซ ทู กว่างโจว เหลือเพียงอันดับ 8 เท่านั้นที่ยังมีการช่วงชิงกันอยู่
เฮดทูเฮดของเดชาพล – ทรัพย์สิรี กับ 6 คู่ที่จะเจอกันในเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ อันดับ 1 เจิ้ง ซีเหว่ย – หวง ย่าเฉียง จากจีน เจอกัน 3 ครั้ง คู่ของไทยยังชนะไม่ได้ อันดับ 2 ยูตะ วาตานาเบะ – เอริสะ ฮิกาชิโนะ จากญี่ปุ่น ยังไม่เคยเจอกัน
อันดับ 4 ชาน เปง ซุน – โก๊ะ หลิว หยิง จากมาเลเซีย เจอกัน 3 ครั้ง คู่ของไทยยังไม่เคยชนะได้เช่นกัน อันดับ 5 หวัง อี้หลิว – หวง ตงผิง จากจีน เจอกัน 6 ครั้ง บาส-ปอป้อ ชนะได้ 4 ครั้ง และแพ้ 2 ครั้ง อันดับ 6 ฮาฟิซ ไฟซาล – กลอเรีย วิดจาจา จากอินโดนีเซีย เจอกัน 2 ครั้ง คู่ของไทยชนะได้หมด และอันดับ 7 โก๊ะ ซุน ฮวต – ไหล เชวอน เจมี่ จากมาเลเซีย เจอกันมา 6 ครั้ง บาส-ปอป้อชนะได้ 2 และแพ้ 4 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สถิติยังเป็นรองคู่แข่งจากบางชาติ แต่ฟอร์มการเล่นและความมั่นใจของทั้งคู่ในช่วงหลัง ก็ดีอย่างสม่ำเสมอ และการขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 7 ของโลกได้อีกครั้ง ทั้งๆ ที่เมื่อ 5 เดือนก่อน ยังอยู่ในอันดับ 62 ของโลก ทำให้คู่แข่งต้องหวั่นใจกันบ้าง ถ้าจะต้องมาเจอกันในสนาม
การเข้ามาแข่งขันได้หลายประเภทในปีนี้ เป็นหนึ่งในความสำเร็จของวงการขนไก่ไทย แต่จะยิ่งดีไปกว่านี้ ถ้านักแบดมินตันจากแดนสยามจะสามารถคว้าแชมป์กลับบ้านได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ตามเชียร์กันให้ดี อาจมีเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้
