‘ช้างศึก’ ตกมันไล่ขยี้ ‘ลอดช่อง’ 3-0 คว้าแชมป์กลุ่ม ทะลุตัดเชือกศึกอาเซียนชนแข้ง ‘เสือเหลือง’

ทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เก่า 5 สมัย ลงฟาดแข้งนัดชี้ชะตาพบกับ “เดอะไลออนส์” ทีมชาติสิงคโปร์ ในศึกฟุตบอลชิงแมป์อาเซียน รายการ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” รอบแรก กลุ่มบี นัดสุดท้าย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน

ผลงาน 3 นัดที่ผ่านมา ทีมชาติไทย คว้าชัย 2 นัด และเสมอ 1 นัด โดยชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0, ชนะ อินโดนีเซีย 4-2 และบุกเสมอ ฟิลิปินส์ 1-1 มี 7 แต้ม ขณะที่ สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 1-0, บุกแพ้ ฟิลิปปินส์ 0-1 และชนะ ติมอร์ เลสเต 6-1 มี 6 แต้ม ทำให้เกมนี้เป็นการแย่งชิงการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

เกมนี้ “โค้ชมิโล่” มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยปรับทัพจากนัดก่อน 2 ตำแหน่งด้วยการส่ง มิก้า ชูนวลศรี ลงมาเล่นทางแบ๊กขวาแทน ฟิลิป โรเลอร์ และส่ง นูรูล ศรียานเก็ม ลงมากระชากทางริมเส้นแทน ปกเกล้า อนันต์ ที่ได้โอกาสลงสนามตัวจริงในเกมเสมอ ฟิลิปปินส์

สำหรับรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทีมไทย ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ฉัตรชัย บุตรพรม, กองหลัง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (กัปตันทีม), พรรษา เหมวิบูลย์, แบ๊กซ้าย กรกช วิริยอุดมศิริ, แบ๊กขวา มิก้า ชูนวลศรี, กองกลาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สรรวัชญ์ เดชมิตร, แนวรุกริมเส้น นูรูล ศรียานเก็ม, ศุภชัย ใจเด็ด และกองหน้าตัวเป้า อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ยิงไปแล้วในรายการนี้ 7 ประตู

Advertisement

ขณะที่รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทีมสิงคโปร์ ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ฮัสซัน ซันนี, กองหลัง 5 คน ชาคิร์ ฮัมซาห์, นาซรูล นาซารี, อิรฟาน ฟานดี้, มูฮัมหมัด บาฮารุดดิน, มูฮัมหมัดซุลฟาห์มี อารีฟีน, กองกลาง ซูลกาแมน ซุสลิมาน, อิซซดิน ยาค็อบ, ฮาริส ฮารูน (กัปตันทีม), กาเบรียล ควอก จุนยี่ และอิคซาน ฟานดี้ อาห์หมัด กองหน้าตัวเป้า

Advertisement

เกมนี้ทีมชาติไทย ขอเพียง 1 คะแนน ก็จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศทันที โดยทัพช้างศึกมีสถิติที่ดียามพบ สิงคโปร์ ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 8 นัดที่ผ่านมา ชนะ 4 เสมอ 2 และแพ้ 2 นัด ที่สำคัญ 3 นัดหลังสุดที่เจอกัน ยังเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้ทุกนัด เริ่มจากรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อปี 2012 เปิดบ้านชนะ 1-0, รอบแบ่งกลุ่ม ปี 2014 และปี 2016 ที่ชนะด้วยสกอร์ 2-1 และ 1-0 ตามลำดับ

เกมครึ่งแรกนาทีที่ 13 แข้งช้างศึกพังประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะเตะมุม สรรวัชญ์ เดชมิตร ไหลบอลให้ กรกช วิริยอุดมศิริ โยนบอลเข้าเขตโทษแล้ว พรรษา เหมวิบูลย์ เติมเกมรุกขึ้นมาโหม่งบอลไปแฉลบ อิรฟาน ฟานดี้ กกองหลังสิงคโปร์ทำเข้าประตูตัวเองไป

นาทีที่ 22 ทีมไทยขยับสกอร์หนีห่าง 2-0 ธนบูรณ์ เกษารัตน์ วางบอลยาวไปหน้ากรอบเขตโทษแล้วแนวรับสิงคโปร์สกัดบอลพลาดไปเข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด แต่งบอลลงพื้นแล้วซัดบอลเสียบเสาแรกเข้าไปเป็นประตูที่ 3 ของตัวเองในทัวร์นาเมนต์นี้ จบครึ่งแรกทีมไทยนำ 2-0

ครึ่งหลังทีมไทยหาจังหวะบุกหวังยิงเพิ่มจนช่วงนาทีที่ 89 ทีมไทยยิงประตูที่ 3 จากจังหวะโต้กลับเร็ว สรรวัชญ์ เดชมิตร ตักบอลให้ อดิศักดิ์ ไกรษร บังบอลผู้เล่นทีมเยือนแล้วซัดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 8 ของเขาในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018

จบเกม ทีมชาติไทย ชนะ สิงคโปร์ 3-0 ทำให้ลงเตะ 4 นัด ชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด มี 10 แต้ม คว้าอันดับ 1 ของกลุ่มบี พร้อมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ขณะที่ สิงคโปร์ ชนะ 2 แพ้ 2 มีเพียง 6 แต้ม เป็นอันดับ 3 ของกลุ่มเอ ตกรอบแรกไป

สำหรับในรอบรองชนะเลิศ ทีมชาติไทยจะเข้าไปพบ มาเลเซีย ที่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเอ โดยจะแข่งขันแบบเหย้า-เยือน เกมแรกทีมชาติไทยจะไปเยือนก่อนที่สนามกีฬาแห่งชาติบูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเซีย วันที่ 1 ธันวาคม ก่อนจะกลับมาเตะนัดสองที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 5 ธันวาคม

ส่วนผลอีกคู่ อินโดนีเซีย เสมอ ฟิลิปปินส์ 0-0 ทำให้ฟิลิปปินส์ ลงเตะ 4 นัด ชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด มี 8 แต้ม คว้าอันดับ 2 ของกลุ่มบี ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเข้าไปพบ เวียดนาม อันดับ 1 ของกลุ่มเอ ซึ่งจะแข่งขันกันวันที่ 2 ธันวาคม ที่ปานาด สเตเดียม ประเทศฟิลิปปินส์ และนัดสอง วันที่ 6 ธันวาคม ที่มิดินห์ สเตเดียม ประเทศเวียดนาม

ทั้งนี้ ทีมที่ชนะในรอบรองชนะเลิศทั้งสองทีมจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยจะไปแข่งขันกันในวันที่ 11 และ 15 ธันวาคมต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image