หลังจากที่ฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น ฤดูกาล 2018 ปิดฉากการแข่งขันไปเป็นที่เรียบร้อย โดยแชมป์ตกเป็นของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ขณะที่รองแชมป์ ซานเฟรชเช่ ฮิโร่ชิม่า ต้นสังกัดของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ส่วน คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ต้นสังกัดของ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ คว้าอันดับ 4 ด้าน วิเซล โกเบ ต้นสังกัดของ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน คว้าอันดับ 10 นั้น
“เจ” ชนาธิป เปิดเผยว่า เกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เสมอ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า 2-2 ส่วนตัวดีใจที่ยิงประตูได้ ทำให้เพื่อนร่วมทีมมีความมั่นใจขึ้น ทุกคนทำหน้าที่ได้ดี ตัวเองอาจจะทำไม่ได้ตามที่ใจหวัง แต่ทีมเราเป็นทีมที่มีการพัฒนา และรู้สึกเสียดาย แต่ก็ยังไม่หมดหวังที่เราจะได้ไปเล่นถ้วยเอเชีย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า
“ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว เราพัฒนากันมาก ก่อนอื่นต้องขอบคุณโค้ชมิช่า (มิไฮโล เปรโตวิช) สต๊าฟโค้ช และเพื่อนร่วมทีม ทำให้ผมพัฒนาขึ้น โค้ชตั้งความหวัง และสอนหลายเรื่อง ซึ่งยากในช่วงแรก แต่จบฤดูกาลก็ทำให้เห็นว่า เราพัฒนาทุกด้าน ดีใจครับ แต่อยากพัฒนาเพิ่มขึ้นไปอีก ปีหน้าเป้าหมายของเราก็สูงขึ้น เราหวังว่าจะได้แชมป์” ชนาธิป กล่าว
ดาวเตะไทยวัย 25 ปีกล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณแฟนบอลฮอกไกโด รวมทั้งแฟนบอลไทยที่คอยให้กำลังใจตัวเอง และทีมมาโดยตลอด ซึ่งฤดูกาลนี้อาจจะผิดหวังบ้าง สมหวังบ้าง แต่ส่วนตัวเองก็รู้สึกมีความสุข พวกคุณคือกำลังใจที่ดีมากๆ สำหรับตัวเองและทีม ทุกคนรับรู้ และไม่ได้เพื่อทีม แต่ทุกคนเล่นเพื่อแฟนบอลที่คอยสนับสนุนพวก ซึ่งคงต้องขอบคุณมาก
สำหรับผลงานของ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในฤดูกาลที่ผ่านมานั้น ลงสนามรวมทุกรายการทั้งสิ้น 31 นัด ยิงได้ 9 ประตู และ 3 แอสซิสต์ ทำประตูได้มากสุดเป็นอันดับ 3 ของทีมรองจาก เคน โทคุระ 14 ประตู และเจย์ โบธรอยด์ 11 ประตู
ทั้งนี้ คอนซาโดเล ซัปโปโร ยังมีหวังที่จะได้เข้าไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยต้องลุ้นให้ คาชิม่า อันท์เลอร์ส ที่จบอันดับ 3 ในศึกเจลีก คว้าแชมป์เอ็มเพอเรอร์สคัพได้สำเร็จ โควต้าเพลย์ออฟจะตกลงมาอันดับ 4 แทน
ด้าน “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ทำผลงานได้ดีกับซานเฟรชเช่ ฮิโร่ชิม่า และวิเซล โกเบ แต่มีรายงานว่า ทั้ง 2 คนจะหมดสัญญาจากการยืมตัว และกลับมาเล่นให้กับต้นสังกัดอย่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า
