คาร์ล-ไฮน์ซ รุมเมนิกเก้ ประธานบริหารบาเยิร์น มิวนิก เผยความรู้สึกหลังเกมที่ “เสือใต้” ทำได้แค่ชนะ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด 2-1 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2 ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ของตัวเอง นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม แต่ไม่พอที่จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เนื่องจากรวมผล 2 นัดเสมอกัน 2-2 ทว่าบาเยิร์นตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือนว่า เหมือนกับโดนโกงผลการแข่งขัน
บาเยิร์นซึ่งบุกแพ้แอตฯ มาดริดในเกมแรก 0-1 ต้องการชัยชนะด้วยผลต่างเกิน 1 ประตูขึ้นไปถึงจะเข้ารอบ แต่ถ้าชนะ 1-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที แล้วถ้าชนะด้วยผลต่างเพียง 1 ประตูที่ไม่ใช่สกอร์ 1-0 จะตกรอบ ปรากฏว่าทีมเสือใต้ออกนำ 1-0 นาที 31 จากการยิงฟรีคิกแฉลบของชาบี้ อลอนโซ่ แต่เสียประตูลูกปัญหาที่อ็องตวน กรีซมันน์ กองหน้าอีกฝ่ายพาบอลจากตำแหน่งล้ำหน้าเข้าไปยิงตีเสมอ 1-1 ต้นครึ่งหลัง
แม้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จะโขกประตูให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 2-1 อีกครั้งช่วง 16 นาทีสุดท้าย แต่ก็ได้แค่นั้น แถมยังเสียจุดโทษให้ทีมตราหมีจากความผิดพลาดของกูเนย์ต ชากีร์ ผู้ตัดสินจากตุรกี ที่เป่าให้จุดโทษทีมเยือน ทั้งที่ฆาบี้ มาร์ติเนซ นักเตะบาเยิร์นเสียบเฟร์นานโด ตอร์เรส นอกเขตโทษช่วงท้ายเกม ทว่ายังดีที่ตอร์เรสยิงไปติดเซฟมานูเอล นอยเออร์ ขณะเดียวกันโธมัส มุลเลอร์ แนวรุกเสือใต้ก็ซัดจุดโทษตั้งแต่นาที 34 ไม่ผ่านมือยาน โอบลัก เช่นกัน
จบเกม รุมเมนิกเก้เผยว่าเหมือนถูกโกง เพราะประตูของแอตฯ มาดริด มาจากจังหวะล้ำหน้า และลูกโทษก็เป็นการฟาวล์นอกเขต อีกทั้งผู้ตัดสินคนนี้ก็ทำหน้าที่ถึง 2 แมตช์ภายใน 7 วันอีกด้วย
