‘เมสซี่เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์’ แข้งพรสวรรค์ค่าตัวพุ่ง200ล้าน เขย่าลีกญี่ปุ่นสะเทือนถึงยุโรป

แฟนบอลไทยนั้นมักจะวาดฝันกับการได้เห็นนักเตะไทยได้ไปโลดแล่นอยู่ในลีกต่างประเทศกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาก็มีนักเตะไทยได้โกอินเตอร์ไปเล่นต่างประเทศกันมากขึ้น โดยเฉพาะในฟุตบอลเจลีก ของญี่ปุ่น ที่ฤดูกาลที่ผ่านมามีนักเตะไทยไปเล่นถึง 3 คน

จากเดิมทีเมื่อครึ่งปีก่อน “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เปรียบเสมือนผู้เบิกทางให้นักเตะไทย ไปเล่นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2017 ให้กับ “นกเค้าแมวเมืองเหนือ” คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ก่อนจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยทีมให้รอดพ้นการตกชั้น และอยู่ในลีกสูงสุดต่อไปได้

จากนั้นฤดูกาล 2018 แม้ซัปโปโรมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือการเข้ามาของ มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ที่เป็นกังวลกันว่าจะทำให้โอกาสชนาธิปลดลงหรือไม่ แต่ชนาธิปก็สร้างผลงานได้โดดเด่นเหนือกว่ารุ่นพี่ร่วมชาติอีก 2 คนที่ไปเล่นในลีกญี่ปุ่นอย่าง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า และ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน กับ วิสเซล โกเบ

“เมสซี่เจ” กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทัพคอนซาโดเล่ ซัปโปโร อย่างต่อเนื่อง ทั้งตลอดฤดูกาล 2018 ได้ลงสนามไป 30 เกม (4 เกมที่ไม่ได้ลงคือมีอาการบาดเจ็บ) รวมระยะเวลาอยู่สนาม 2,640 นาที สามารถทำไปได้ทั้งสิ้น 8 ประตู กับ 2 แอสซิสต์

Advertisement

จากการพาทีมคอนซาโดเล่หนีตกชั้นเมื่อฤดูกาลก่อน ชนาธิปพาทีมก้าวขึ้นมาจบอันดับ 4 พร้อมกับได้ลุ้นไปเล่นถ้วยเอเชีย แถมยังสร้างประวัติศาสตร์เล่นบนลีกสูงสุดได้ติดต่อกัน 2 ฤดูกาลเป็นหนแรกด้วย

ผลงานของเจ้าเจดีมากๆ จนสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของทีมทั้งในส่วนที่เป็นการโหวตจากเพื่อนร่วมทีม ที่เอาชนะกัปตันทีมอย่าง ฮิโรกิ มิยาซาวะ ไปได้ จากคะแนนเสียง 11 คะแนนจากการโหวต 22 คน

ขณะที่จากการโหวตของแฟนบอล ชนาธิปก็ยังได้รับรางวัลเช่นกัน ได้ 2,065 คะแนน จากทั้งหมด 3,293 คะแนน เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2018 ของสโมสรไปครอง และยังมีชื่อติด 1 ใน 30 คนสุดท้าย ที่ลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเจลีก ที่จะประกาศผลในวันที่ 18 ธันวาคม

ขณะเดียวกันเรื่องนอกสนาม ชนาธิปยังเป็นที่รักของแฟนบอลคอนซาโดเล่ ซัปโปโร รวมถึงแฟนบอลชาวไทย เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นคลิปผลงานต่างๆ ของชนาธิป หรือการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง ต่างมีแฟนบอลเข้ามาชมกันเป็นจำนวนมาก ทั้งยอดไลค์ ยอดแชร์ สูงแทบทุกครั้ง

ชนาธิปเล่าให้ฟังว่า ผลงานของเขาในฤดูกาลนี้ต้องยกเครดิตให้กับเพื่อนร่วมทีมและโค้ช เพราะทำงานอย่างหนักกันตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น ยิ่งช่วงนั้นต้องเจอมรสุมชีวิต นอนตี 3 ทุกวัน แต่ก็ได้รับคำแนะนำจากทุกคน จนทำให้ทีมประสบความสำเร็จ

ส่วนเรื่องการได้รับโหวตเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรนั้น ชนาธิปยอมรับว่าตัวเขานั้นเต็มที่ในทุกเกม ซึ่งต้องขอบคุณแฟนบอลที่ให้การสนับสนุนเช่นนี้ แต่การที่มีลุ้นติดนักเตะยอดเยี่ยมเจลีกนั้นก็ยังไม่คิดว่าจะไปถึงติดทีมยอดเยี่ยมประจำปี แค่ตั้งใจกับผลงานในการลงสนามเท่านั้น

ขณะที่ “เฮงซัง” วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายพัฒนาเทคนิค ให้ความเห็นเกี่ยวกับฟอร์มของชนาธิปว่า เป็นปีที่ยอดเยี่ยมของชนาธิปที่ทำให้แฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมได้เห็นว่ามีศักยภาพมากแค่ไหน เพียงแต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องพัฒนาต่ออีก

“การที่ชนาธิปเข้ากับคนอื่นได้ง่ายและทำให้เพื่อนร่วมทีมยอมรับอย่างรวดเร็ว ก็เพราะว่ามีอัธยาศัยที่ดี และการมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนบอลก็ทำได้ดีมากๆ เมื่อรวมกับผลงานในสนามจึงไม่น่าแปลกใจที่ชนาธิปจะได้รับโหวตเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของทีม”

แต่โค้ชเฮงเองก็ยังเตือนชนาธิปว่า ในปีหน้าจะเป็นปีที่ยากขึ้น เพราะทุกคนจะเริ่มคาดหวังกับผลงานของตัวเขา และด้วยความที่เจลีกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในแต่ละฤดูกาล ทีมที่ได้แชมป์อาจหนีตกชั้น หรือทีมที่เลื่อนชั้นก็ลุ้นแชมป์ได้

อย่างไรก็ตาม โค้ชเฮงยังเชื่อว่า ชนาธิปจะทำผลงานได้ดีกว่าเดิม เพียงแต่อยากให้ลองมองหาเส้นทางอื่น อย่างเช่นไปเล่นให้ทีมใหญ่ หรือไปค้าแข้งยุโรป เพราะอายุยังน้อยและมีความมุ่งมั่นกับฟุตบอลอาชีพ ซึ่งมองว่าจะไปได้ไกลกว่าการเล่นในญี่ปุ่นแน่นอน

จากฝีเท้าอันยอดเยี่ยมทำให้สโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ตั้งค่าตัวของชนาธิปไว้ที่ 6.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าตัวที่เหมาะสมกับฝีเท้าของเขาที่ได้แสดงให้เห็นในเวทีศึกลีกสูงสุดของญี่ปุ่นเมื่อฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมา

สำหรับเส้นทางของชนาธิปย้ายจาก “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาร่วมทีม อนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปีครึ่ง เมื่อช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2017 และเมื่อกลางปี 2018 ซัปโปโรได้ซื้อขาด โดยคาดกันว่ามีค่าตัวอยู่ที่ 90 ล้านบาท ซึ่งสัญญากับซัปโปโรจะเริ่มในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยระยะสัญญาแต่อย่างใด

ด้วยฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของชนาธิปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าตัวของเขาพุ่งสูงขึ้นจากตอนแรก 90 ล้านบาททะลุไปจนถึง 200 ล้านบาท หรือเรียกได้ว่าพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว ซึ่งด้วยวัยเพียง 25 ปี เขายังมีเวลาในการค้าแข้งอีกยาวนาน และเชื่อว่าในฤดูกาลหน้าหลายทีมในญี่ปุ่น รวมทั้งลีกยุโรปจะจับตามองเขาเป็นอย่างมาก

ในฤดูกาลหน้า ชนาธิปวางเป้าหมายสำคัญในการพาทัพซัปโปโรก้าวไปผงาดแชมป์เจลีกให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเป็นที่ยอมรับจากโค้ช เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล จะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เขาสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

ศึกเจลีกถือเป็นประตูสำคัญของนักเตะญี่ปุ่นหลายคนในการก้าวไปสู่การค้าแข้งในเวทีลีกยุโรปมาแล้วมากมาย โดยในครั้งนี้เป็นโอกาสครั้งสำคัญของชนาธิปในการก้าวไปเล่นในทวีปยุโรปครั้งแรกของชีวิต ซึ่งในฤดูกาลหน้าหากเขายังคงโชว์ฝีเท้าได้โดดเด่นจะทำให้เขามีโอกาสก้าวไปเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ในชีวิตค้าแข้งอย่างแน่นอน

จากค่าตัว 90 ล้านบาท จนถึงปัจจุบันที่มีค่าตัวกว่า 200 ล้านบาท และหากฤดูกาลหน้า เมสซี่เจยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยอดเยี่ยมของตัวเองได้อย่างต่อเนื่องแล้ว คิดว่าค่าตัวเพียง 200 ล้านบาทอาจจะดูน้อยไปสำหรับแข้งพรสวรรค์รายนี้

จับตาฤดูกาลหน้าที่กำลังจะมาถึงที่จะเป็นจุดหักเหสำคัญที่สุดในชีวิตค้าแข้งของ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับการก้าวไปเขย่าเวทีฟุตบอลลีกญี่ปุ่นที่มีโอกาสสั่นสะเทือนไปจนถึงเวทีลีกลูกหนังยุโรปเลยทีเดียว!!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image