สกู๊ปพิเศษ : 10 ข่าวเด่นกีฬาไทยแห่งปี 2561

1.ปีหลากอารมณ์ของ “แหลม” ศรีสะเกษ
“แหลม” ศรีสะเกษ นครหลวง โปรโมชั่น กำลังพุ่งถึงขีดสุดในการเป็นนักชกอาชีพ ในปีนี้เจ้าแหลมขึ้นชกป้องกันแชมป์โลกในรุ่นุปเปอร์ฟลายเวต ของสภามวยโลก(ดับเบิลยูบีซี) ถึง 2 ครั้ง และทำสำเร็จถึง 2 ครั้ง โดยการป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2(ของการป้องกันแชมป์ทั้งหมด) ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 ชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา ผู้ท้าชองชาวเม็กซิโก ที่สหรัฐอเมริกา และครั้งที่ 3 ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี วันที่ตุลาคม ชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ อิมราน ดิอาซ จากเม็กซิโกได้อย่างไร้ข้อกังขา
อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมา ศรีสะเกษก็มาเจอกับวิกฤติหัวใจ เมื่อต้องเลิกรากับ “เก๋” พัชรีวรรณ กัณหา แฟนสาวที่สู้ชีวิตมาด้วยกัน จนทำให้เก็บตัวและหมดกำลังใจจะซ้อมไปช่วงหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้พบรักใหม่ กับ “จ๊ะจ๋า” พรพิมล สารแก้ว สาวหลังสวน จ.ชุมพร และได้ตกลงปลงใจแต่งงานกันไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

2.ปีไร้ผลงานของช้างศึก
ฟุตบอลทีมชาติไทยได้ มิโลวาน ราเยวัช เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนเมื่อปีที่แล้ว แต่ในปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถหยิบแชมป์ใดๆ ติดมือได้เลย เริ่มจากฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 เมื่อเดือนมีนาคม ช้างศึกกรุยทางเข้ารอบชิงชนะเลิศมาได้ แต่พ่ายให้กับสโลวาเกีย ทีมอันดับ 29 ของโลกในช่วงนั้น 2-3 พลาดแชมป์
ต่อด้วยกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทีมชาติไทยแพ้ 1 และเสมอ 2 นัด มี 2 แต้มตกรอบแรก ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของแฟนบอลไทยที่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ และให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นากยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รับผิดชอบผลงานในครั้งนี้
ศึกศักดิ์ศรีแห่งอาเซียนวนมาถึงอีกรอบ ในรายการฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” รายการนี้ไทยเป็นแชมป์เก่า 2 สมัยก่อนหน้า และเป็นเต็ง 1 เหมือนเดิม แม้จะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาแบบไม่ยากเย็น แต่ต้องมาผิดหวัง เมื่อแพ้มาเลเซีย ด้วยกฎอะเวย์โกล ในรอบรองชนะเลิศ 2-2 หลังจากไปเสมอที่กัวลาลัมเปอร์มา 0-0 แต่กลับมาโดนยิงที่ราชมังคลากีฬาสถาน 2 ประตู แม้ว่าจะได้จุดโทษในช่วงนาทีสุดท้าย แต่อดิศักดิ์ ไกรษร ก็ยิงพลาด ทำให้จอดป้ายแค่รอบนี้ สุดท้ายเป็นเวียดนามที่ปราบมาเลเซีย คว้าแชมป์ไปครอง
แฟนบอลไทยก็ยังเรียกร้องความรับผิดชอบจากโค้ชและนายกสมาคมฯ อีกเหมือนเดิม

Advertisement

3.ห้ามเด็กต่ำกว่า12ต่อยมวยไทย
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดย พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ สมาชิก สนช.พร้อมคณะรวม 33 คนร่วมกันเสนอร่าง พระราชบัญญัติกีฬามวย (พ.ร.บ.มวย) ฉบับแก้ไขใหม่ เพื่อใช้แทน พ.ร.บ.มวย ฉบับปี พ.ศ.2542 ซึ่งฉบับร่างแก้ไขใหม่นั้น มีการแก้ไขที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลวงการมวย โดยเฉพาะกรณี เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ห้ามทำการแข่งขันมวยไทยเด็ดขาด หากอายุเกินกว่า 12 ปี ต้องกำหนดเงื่อนไขการชกใส่เครื่องป้องกัน
ทั้งนี้ ตามร่างแก้ไขใหม่ มาตรา 14 คือ
“ในการแข่งขันกีฬามวยอาชีพ ห้ามมิให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวย และนายสนามมวยอนุญาตให้ เด็กมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าร่วมแข่งขัน และการอนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน แต่เด็กนั้นต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี และการจัดการแข่งขันต้องมีเครื่องปัองกันอันตรายและกฎกติกาที่เหมาะสม”
เรื่องนี้ทำเอาคนวงการมวยออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านกันอย่างแพร่หลาย ทั้งอดีตนักชกเหรียญโอลิมปิก ทวี อัมพรมหา, สมรักษ์ คำสิงห์, สมิจตร จงจอหอ แชมป์โลกอย่าง เขาทราย แกแล็กซี่, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ศรีสะเกษ นครหลวง โปรโมชั่น และนักมวยไทยค่าตัวเรือนแสน ครูมวย ผู้ฝึกสอน จนถึงขั้นจะมีการเดินขบวนประท้วง เพราะถือเป็นการหยุดการพัฒนาของมวยไทยที่เป็นมรดกของประเทศชาติ
อย่างไรก็ตามการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีต่อยมวย เพราะความเป็นห่วงของหลายฝ่าย ทั้งแพทย์และฝ่ายปกครอง ที่จะมีผลกระทบต่อสมอง ร่างกายและการเจริญเติบโตของเด็ก ในช่วงที่มีการคัดค้านนั้น มีนักมวยไทยเด็ก 13 ปี เพชรมงคล ส.วิไลทอง หรือ อนุชา ทาสะโก เสียชีวิตหลังจากการขึ้นชก ทำให้ประเด็นนี้ยิ่งร้อนแรงเข้าไปใหญ่

4.เอเชี่ยนเกมส์อีกครั้งที่ต่ำกว่าเป้า
ทัพนักกีฬาไทยมีภารกิจใหญ่ในปีนี้ คือ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ก่อนการแข่งขันมีการประเมินจำนวนเหรียญทองที่จะได้รับ 13-15 เหรียญทอง จากการส่งนักกีฬาร่วมแข่งขัน 813 คน มากเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย เป็นรองแค่จีนและเจ้าภาพ ด้วยงบประมาณ 800 กว่าล้านบาท
ผลงานในครั้งนี้ ไทยทำได้ 11 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 46 เหรียญทองแดง เป็นอันดับ 12 ของเอเชีย ถือเป็นอันดับที่แย่ที่สุดในรอบ 24 ปี มีหลายชนิดกีฬาที่ทำผลงานต่ำกว่าเป้า
การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ที่เป็นหน่วยงานในการเตรียมนักกีฬานั้น ยืนยันว่าถึงผลงานจะต่ำกว่าเป้า แต่ก็ยังเป็นผลงานที่ใกล้เคียงกับที่วางไว้ มีหลายกีฬาที่สร้างเซอร์ไพรส์ มีการสร้างนักกีฬาหน้าใหม่มาเป็นความหวังสำคัญในมหรรมต่อๆ ไป
ส่วนการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ 2018 หรือกีฬาคนพิการแห่งเอเชียนั้น ทัพพิการไทยทำได้ 23 เหรียญทอง 33 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดง ถือเป็นผลงานที่ดีกว่าเดิม เพราะได้มากกว่า 21 เหรียญทองจาก 4 ปีก่อน

Advertisement

5.เฮลิคอปเตอร์เสี่ยวิชัยตกที่อังกฤษ
กลางดึกของวันที่ 27 ตุลาคม ที่บริเวณคิงเพาเวอร์ สเตเดียม สนามเหย้าของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมฟุตบอลในประเทศอังกฤษ มีเหตุการณ์ช็อกโลกเกิดขึ้น เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ชาวไทย ประสบอุบุติเหตุจนมีการยืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้จำนวน 5 ราย ได้แก่ วิชัย, นุสรา สุขหน้าไม้, กวีพร พรรณแพร ซึ่งเป็น คณะทำงานของนายวิชัย อีก 2 คน คือ เอริค สวัฟเฟอร์, อิซาเบล่า โรซ่า เลโชวิช นักบินที่ทำหน้าที่ในเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น
หลังจากที่มีการแถลงการณ์จากเลสเตอร์ ซิตี้ โลกฟุตบอลต่างร่ำไห้และไว้อาลัยต่อการจากไปของบุคคลทั้ง 5 อย่างสุดซึ้ง ไม่ใช่แค่โลกฟุตบอล เพราะคนทั่วโลกที่รู้ข่าวนี้ต่างตกใจและเสียใจไม่ต่างกัน ร่างของนายวิชัยถูกนำกลับมาถึงประเทศไทย ในวันที่ 2 พฤศจิกายน และนำไปบำเพ็ญกุศลที่ศาลากวีนิรมิต(กลางน้ำ) วัดเทพศิริทราวาสวรวิหาร โดยมีคนดังทุกวงการร่วมงานอย่างคับคั่งตลอดทุกวันที่มีการสวดพระอภิธรรม ระหว่างวันที่ 3-9 พฤศจิกายน นักเตะและสต๊าฟโค้ชเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เดินทางมาร่วมอำลาประธานอันเป็นที่รักกันพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนจะมีการเก็บศพ 100

สาเหตุที่ทำให้เฮลิคอปเตอร์ขัดข้องจนตกลงมานั้น สำนักงานสืบสวนอุบัติภัยทางอากาศแห่งสหราชอาณาจักร (เอเอไอบี) ระบุว่า ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่เชื่อมต่อระหว่างแป้นเหยียบของนักบินกับใบพัดหางหลุดออกจากกัน และพบน้ำมันหล่อลื่นเคลือบอยู่บนชิ้นส่วนหนึ่ง ระบบการทำงานที่ผิดพลาดทำให้ใบพัดหางหมุนผิดจังหวะ เมื่อถึงจุดหนึ่งใบพัดจึงรับไม่ไหวจนเสียการควบคุม

6.ครั้งแรกของโมโตจีพีในประเทศไทย
ประเทศไทยเดินหน้าขอเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” มาระยะหนึ่ง และประสบความสำเร็จ ได้รับความไว้วางใจจากดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ให้จัดการแข่งขัน 3 ปี ระหว่างปี 2561-2563 และใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เป็นสังเวียนในการรับหน้าเสื่อครั้งนี้
การแข่งขันในไทยเป็นสนามที่ 15 ใช้ชื่อว่า “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018” ซิ่งกันระหว่างวันที่ 5 – 7 ตุลาคม ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด ในช่วงระยะเวลา 3 วันของการแข่งขัน มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 205,000 คน สร้างรายได้รวมประมาณ 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 2,470 ล้านบาท และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น ขอนแก่น สุรินทร์ นคราชสีมา รวมจำนวน 630 ล้านบาท รวมทั้งจ้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3,831 คน
สำหรับแชมป์ในสนามนี้เป็นของ มาร์ค มาร์เกซ จากทีมเรปโซล ฮอนด้า และเก็บแต้มไปคว้าแชมป์โลกได้อีกสมัยหลังแข่งจบฤดูกาล
นอกจากความสำเร็จในเรื่องกระแสและรายได้แล้ว โมโตจีพีหนแรกในไทยยังได้รับการโหวตให้เป็นกรังด์ปรีซ์ที่ดีที่สุดในฤดูกาล 2018 จากผลโหวตของนักแข่ง ทีมงานช่าง และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันด้วย

7.โปรเมกับความยิ่งใหญ่ในจักรวาลกอล์ฟ
“โปรเม” เอเรียา จุฑานุกาล เป็นที่สุดของนักกอล์ฟหญิงของโลกในปีนี้ เพราะกวาดรางวัลใหญ่มาครองได้หมด ได้แก่ นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลผลงานดีที่สุดในรายการระดับเมเจอร์. ตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสูงสุด และโบนัส 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ(3.2 ล้านบาท) ในฐานะนักกอล์ฟที่จบอันดับท็อป 10 มากที่สุดตลอดปี, รางวัลแวร์ โทรฟี่ สำหรับนักกอล์ฟที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุดของฤดูกาล และเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (32 ล้านบาท)จากคะแนนสะสม “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ” รวมทั้งยังปิดฉากปีด้วยการเป็นนักกอล์ฟมือ 1 ของโลกได้ด้วย
นอกจากนั้นสำนักข่าวอีเอสพีเอ็นได้จัดอันดับนักกีฬาที่ไร้เทียมทานที่สุดในรอบปี 2018 ในแต่ละชนิดกีฬา ซึ่งโปรเมได้ถูกจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 4 โดยมีค่าเรตติ้งอยู่ที่ 2.094 ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีได้รวบรวม 10 สุดยอดเหตุการณ์ ของนักกีฬาหญิงในปี 2018 โดยเอเอฟพีได้ยกเหตุการณ์การคว้าแชมป์ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น” รอบสุดท้ายที่โปรเมนำเดี่ยวทิ้งคู่แข่งห่างใน 9 หลุมแรกของรอบสุดท้าย แต่มาทำผลงานไม่ดีใน 9 หลุมหลัง จนคิม ฮโย จู โปรเกาหลีใต้ไล่ทัน และต้องเพลย์ออฟเพื่อหาแชมป์ อย่างไรก็ตามเอรียาเอาชนะในการดวลเพลย์ออฟไปได้ และคว้าแชมป์เมเจอร์รายการที่ 2 ของตัวเองได้อย่างสนุกตื่นเต้น

8.คีย์แมนกีฬาไทยเปลี่ยนแปลง
ปี 2561 มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในวงการกีฬาตำแหน่งสำคัญๆ หลายองค์กร เริ่มจากตำแหน่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ที่ สกล วรรณพงษ์ หมดวาระและต้องเกษียณอายุราชการ ทำให้ต้องมีการสรรหาผู้ว่า กกท.คนใหม่ โดยมีแคนดิเดทที่เข้ามาสมัครหลายคนทั้งคนนอก กกท. และคนใน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการสอบหลายด่าน ก้องศักด ยอดมณี ลูกชายของ สุวิทย์ ยอดมณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับการเลือกให้เป็นผู้ว่า กกท.คนใหม่ ในวาระ 4 ปี
ขณะที่สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ก็มีการเปลี่ยนมือจาก สินธุ พูนศิริวงศ์ ที่นั่งเก้าอี้นี้มากว่า 30 ปี โดยนายกสมาคมฯคนใหม่ คือ “เฮียฮง” สุนทร จารุมนต์ ที่เป็นผู้อยู่ในวงการสอยคิวไทยมานานแล้วเช่นกัน
ส่วนตำแหน่งเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ ได้ปลด พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เพื่อนรักจากตำแหน่งเลขาฯสมาคม เพราะมีปัญหาภายในสมาคมเอง จนเกิดดราม่าจะมีการแถลงข่าวแฉกัน จนสุดท้ายเคลียร์กันลงตัว และดราม่าก็สงบไปในที่สุด

9.ชบาแก้วไปฟุตบอลโลกสมัย2
ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยคว้าสิทธิเข้าไปเล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากจบอันดับ 4 ในการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชียได้สำเร็จ โดยครั้งที่จะถึงนี้จะแข่งขันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม 2562
ผลการจับสลากแบ่งกลุ่มในรอบสุดท้ายออกมาแล้ว ชบาแก้วอยู่ร่วมสายกับเจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย สหรัฐอเมริกา, สวีเดน, ชิลี
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชบาแก้วยอมรับว่า ในรอบสุดท้าย ไม่มีกลุ่มไหนที่ง่าย และทุกคนในทีมก็อยากจะไปให้ไกลกว่าเมื่อครั้งที่แล้ว กับสหรัฐอเมริกาเคยอุ่นเครื่องกันมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งนี้ยังต้องมาเจอกันอีก ส่วนสวีเดน ก็เคยเป็นรองแชมป์โลก ปี 2003 น่าจะทำให้นักเตะไทยได้ประสบการณ์กลับมามากมายทีเดียว

“สิ่งที่พวกเราตั้งความหวังไว้คือ เราอยากที่จะเก็บแต้มให้ได้จากชิลี ซึ่งทีมร่วมสายครั้งนี้หนักกว่าครั้งก่อนมากที่เราสามแต้มประวัติศาสตร์จากไอวอรี่โคสต์ นักเตะไทยค่อนข้างเสียเปรียบร่างกาย แต่งานนี้เราไปด้วยใจอย่างเดียวเท่านั้น สิ่งที่ต้องระวังเรื่องของอาการบาดเจ็บเนื่องจากผู้เล่นเรามีจำกัด” มาดามแป้งกล่าว

10.พาณิภัคกี่แชมป์ก็ยังไม่พอ
“เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล กลายเป็นจอมเตะที่ไร้เทียมทานของวงการเทควันโดโลกในทุกวันนี้ เพราะในรุ่น 49 กก.หญิง ในปีนี้คว้ามาได้ทั้งหมด 6 แชมป์ ประกอบด้วย
รายการ ดับเบิลยู ที จี-2 โอเพ่น ควอลิฟิเคชั่น ทัวร์นาเมนต์ 1 ฟอร์ อู๋ซี 2018 เวิลด์ เทควันโด แกรนด์สแลม แชมเปี้ยนชิพ ซีรีส์ ที่ประเทศจีน, อัมมาน โอเพ่น ที่ประเทศจอร์แดน, เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 3 ที่ไต้หวัน, เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย, เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 4 ที่ประเทศอังกฤษ และอู๋ซี เวิลด์ เทควันโด แกรนด์สแลม แชมเปี้ยนชิพ ซีรีส์ 2018 ที่ประเทศจีน ซึ่งถือว่าแข่งทุกรายการได้เหรียญเกือบทุกรายการ พลาดไปเพียงรายการเดียว และยังคงเป็นมืออันดับ 1 ของโลก
เป้าหมายของจอมเตะสาวไทยคนนี้ในปีหน้า คือ การเก็บคะแนนเพื่อรักษาอันดับ 1-6 ของโลกในรุ่นตัวเอง เพื่อโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นให้ได้

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image