‘เอเอฟซี’ เตรียมบุกเช็กสังเวียนความพร้อมไทย ก่อนเป็นเจ้าภาพจัดศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นไม่เกิน 23 ปี

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศฯ เตรียมประชุมร่วมกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี)  เพื่อตรวจสภาพความพร้อมการเป็นเจ้าภาพชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเดือนมกราคม 2563 ที่ห้องประชุมชั้น 1 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์

การประชุมในครั้งนี้นำโดย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการเลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วย นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และรองโฆษกสมาคมฯ, ตัวแทนจาก บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน), เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน เข้าร่วม

สำหรับหัวข้อหลักในการประชุม คือการวางตารางงาน และเตรียมเชิญเจ้าหน้าที่จากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ให้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อตรวจสอบความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ระหว่างวันที่ 19-26 กุมภาพันธ์ 2562 นี้

Advertisement

รายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ประจำปี 2563 ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับนานาชาติในทวีป เนื่องจากเป็นการคัดเลือกหา 3 ชาติ เข้าไปแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยจะจัดการแข่งขันในระดับเดียวกับการแข่งขันเอเชียน คัพ

สำหรับกฏ ระเบียบ สำหรับเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของ เอเอฟซี มีดังต่อไปนี้

เรื่องทั่วไป สนามแข่งขัน

  1. จำนวนสนามแข่งขัน 3-4 สนาม และสนามฝึกซ้อม ไม่น้อยกว่า 8 สนาม
  2. ความสว่างของไฟ ไม่น้อยกว่า 1,800 ลักซ์
  3. สภาพสนามต้องมีความสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
  4. ความจุไม่น้อยกว่า 10,000 ที่นั่ง พร้อมติดตั้งเก้าอี้ครบถ้วน
  5. มีจอ LED ขนาดใหญ่
  6. มีพื้นที่รับรอง VIP และ VVIP รวมกันไม่น้อยกว่า 50 ที่นั่ง
  7. ห้องพักนักกีฬาไม่น้อยกว่า 4 ห้อง
  8. ห้องอาบน้ำไม่น้อยกว่า 4 ห้อง ต่อ 1 ห้องแต่งตัว
  9. ห้องสุขา ไม่น้อยกว่า 4 ห้อง ต่อ 1 ห้องแต่งตัว
  10. โถสำหรับผู้ชายปัสสาวะ ไม่น้อยกว่า 4 ชุด ต่อ 1 ห้องแต่งตัว
  11. มีที่นั่งภายในห้องแต่งตัวนักกีฬา ไม่น้อยกว่า 30 ที่นั่ง ต่อ 1 ห้องแต่งตัว
  12. มีเตียงนวด และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ ตู้เย็น, เครื่องปรับอากาศ และกระดานวางแผน
  13. มีห้องอำนวยความสะดวก และห้องอเนกประสงค์ อาทิ ห้องพักผู้ตัดสิน, ห้องตรวจสารกระตุ้น, ห้องพยาบาล, ห้องทำงานสำหรับเจ้าหน้าที่เอเอฟซี, ห้องเด็กเก็บบอล, ห้องเก็บของ, ห้องทำงานสื่อ, ห้องแถลงข่าว, มิกซ์โซน
  14. การติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
  15. ที่นั่งของผู้ควบคุมการแข่งขัน และผู้ประเมินผู้ตัดสิน ต้องอยู่บริเวณกึ่งกลางสนาม และสามารถเชื่อมสัญญาณถ่ายทอดสดได้
  16. ที่นั่งสำหรับผู้วิเคราะห์การแข่งขัน สามารถนั่งได้อย่างน้อยสองคน พร้อมมีระบบไฟฟ้า

สนามฝึกซ้อม

  1. ต้องติดตั้งระบบไฟส่องสว่างไม่น้อยกว่า 500 ลักซ์
  2. มีห้องอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องแต่งตัว
  3. ต้องมีประตูสำรอง, ประตูที่สามารถเคลื่อนย้ายได้
  4. ต้องเป็นสนามแบบปิด
  5. ต้องมีสนามซ้อมสำหรับผู้ตัดสิน โดยมีขนาดมาตรฐาน และลู่วิ่งสำหรับทดสอบสมรรถภาพ

โรงแรมที่พัก

  1. โรงแรมที่พักสำหรับ เจ้าหน้าที่เอเอฟซี จะต้องมีระดับ 4-5 ดาว อยู่ไม่ห่างจากสนามบินเกิน 100 กิโลเมตร และต้องเดินทางสะดวกในการไปยังโรงแรมที่พักของทีม ขณะที่สนามแข่งขัน และสนามฝึกซ้อม จะต้องเดินทางไม่เกิน 30 นาทีจากที่พัก
  2. โรงแรมของทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน จะต้องมีระดับ 4-5 ดาว และต้องเดินทางถึงสนามซ้อมได้ภายใน 30 นาที
  3. โรงแรมที่พัก จะต้องสามารถทำอาหารระดับนานาชาติ และมีอาหารฮาลาล
  4. โรงแรมที่พัก จะต้องมีห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม และพอเพียงกับจำนวนทีมที่เข้าพัก

โดยในวันที่ 19-26 กุมภาพันธ์ 2562 เจ้าหน้าที่จากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย จะเดินทางมาตรวจสอบ สถานที่ดังกล่าว รวมถึงเรื่อง ระบบรักษาความปลอดภัย, การตลาด, สิ่งอำนวยความสะดวกต่อสื่อทั้งต่างประเทศและสื่อภายในประเทศ

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image