เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย คู่ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับบอร์นมัธ ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม เกิดความวุ่นวายขึ้นก่อนแข่งขัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งอพยพแฟนบอลออกจากอัฒจันทร์ฝั่ง “สเตร็ทฟอร์ด เอนด์” และ “เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” จำนวนประมาณ 20,000 คน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
ก่อนที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขันจะประกาศเลื่อนกำหนดการคิกออฟคู่นี้ออกไป 45 นาที แต่สุดท้ายทั้ง 2 สโมสรได้แถลงยกเลิกการแข่งขันตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังได้รับแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณอัฒจันทร์ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขตำรวจเข้าไปตรวจสอบตามอัฒจันทร์และจุดต่างๆ ของสนามว่ามีวัตถุระเบิดหรือวัตถุอันตรายใดๆ หรือไม่ หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิดจึงเดินทางถึงสนาม โดยนำอุปกรณ์กู้ระเบิดเข้าไปภายในบริเวณ
หนังสือพิมพ์ “เดลี่ มิร์เรอร์” รายงานว่า เจ้าหน้าที่สนามพบโทรศัพท์ต้องสงสัยวางติดกับท่อส่งแก๊สในห้องน้ำของสนาม และแจ้งกับผู้รับผิดชอบทันที โดยเหตุผลที่ต้องยกเลิกการแข่งขันเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยืนยันได้ว่าวัตถุดังกล่าวปลอดภัยหรือไม่ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุวุ่นวายประมาณ 3 ชั่วโมง “เดลี่ มิร์เรอร์” รายงานว่า โทรศัพท์ที่พบน่าจะไม่ใช่วัตถุระเบิด แต่เป็นการจงใจสร้างสถานการณ์เพื่อป่วนการแข่งขัน
สำหรับเกมดังกล่าวถือเป็นแมตช์สำคัญสำหรับแมนฯยูที่กำลังลุ้นแย่งอันดับ 4 กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อสิทธิเล่นถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า โดยทันทีที่มีข่าวยกเลิกเกมเตะที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ก็มีการหารือกันเกี่ยวกับแมตช์ที่สนามลิเบอร์ตี้ สเตเดียม ระหว่างสวอนซี ซิตี้ กับแมนฯซิตี้ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันให้หงส์ขาวกับเรือใบสีฟ้าแข่งขันต่อไป
ริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานบริหารพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเกมเตะที่ยกเลิกไปนั้นจะกลับมาแข่งขันได้เมื่อไร และจะมีการชดเชยใดๆ ให้กับแฟนบอลบอร์นมัธที่ต้องเดินทางกว่า 400 กิโลเมตรเพื่อไปเชียร์ทีมตัวเองที่เมืองแมนเชสเตอร์หรือไม่
ส่วนทีมงานวิเคราะห์เกมของ “สกาย สปอร์ตส์” ซึ่งรวมถึงเธียร์รี่ อองรี และเจมี่ คาร์ราเกอร์ ต้องออกไปจัดรายการกันบริเวณลานจอดรถของสนามแทน
