“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงการเตรียมทีมนักจักรยานทีมชาติไทย ประเภทเสือภูเขา ว่าตอนนี้ได้เรียกเข้ามารายงานตัวและเก็บตัวฝึกซ้อมที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมทีมลงแข่งขัน 2 รายการใหญ่ ได้แก่ เมาเท่นไบค์ชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่ประเทศเลบานอน ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม และซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม ที่ประเทศฟิลิปปินส์
สำหรับนักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทยที่ประกาศรายชื่อดังกล่าว ประกอบด้วย ดาวน์ฮิลล์ชาย สืบสกุล สุขจรรยา / ชินพัฒน์ สุขจรรยาน / บุณยวัฒ ปราโมทย์ ดาวน์ฮิลล์หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส / ศิรภัสสร ชาติกำเนิด ครอสคันทรี่ชาย กีรติ สุขประสาท / ปาริวัฒน์ ตั๋นเหล็ก / อดิศักดิ์ ไตรลังคะ ครอสคันทรี่หญิง วรินทร เพ็ชรประพันธ์ / นาตาลี ปัญญาวัน / สุรัตติยา บุปผา ครอสคันทรี่เยาวชนชาย พูนศิริ ศิริมงคล / พลฉัตร นาคทองคำ / อธิพงษ์ สุวรรณสิงห์ / รังสิมันต์ ฮังการ์ด เยาวชนหญิง ยลธนันท์ พลกล้า โดยมี สุภัทร ศรีไสว เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ฉลอง ปานผ่อง และกฤติกา ศิลาพัฒน์ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และสุระพงษ์ กลุ่มในเมือง เป็นช่างประจำทีม
เสธ.หมึกกล่าวต่อว่า นอกเหนือจาก 2 รายการดังกล่าวแล้ว นักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทยก็จะเดินทางไปแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมลุ้นโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ในประเภทครอสคันทรี่ เน้นไปที่การแข่งขันเมาเท่นไบค์เอเชียซีรี่ส์ และการแข่งขันระดับนานาชาติในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ขณะที่ประเภทดาวน์ฮิลล์ก็อยู่ระหว่างพิจารณาส่งเข้าประชันฝีมือในระดับการแข่งขันเวิลด์คัพ เพื่อสร้างประสบการณ์และความแข็งแกร่งต่อไป
พล.อ.เดชากล่าวปิดท้ายว่า ขณะเดียวกัน นาตาลี ปัญญาวัน และวรินทร เพ็ชรประพันธ์ จะเก็บตัวฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมไปถึงเดือนมีนาคม ก่อนจะไปเก็บตัวระยะยาวกับศูนย์ฝึกจักรยานโลก ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ที่เมืองเอเกิล สวิตเซอร์แลนด์ ก็เป็นผลดีที่จะได้ตระเวนแข่งขันในยุโรปที่มีมาตรฐานสูง เสริมประสบการณ์นักปั่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี กฤติกา ศิลาพัฒน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ก็จะเดินทางไปอบรมผู้ฝึกสอนจักรยานเสือภูเขาระดับ 2 ที่ศูนย์ฝึกในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นเวลาสองสัปดาห์เต็ม โดยเป็นการเลือกจากวิทยากรของยูซีไอ ที่เจาะจงตัวกฤติกา เนื่องจากเห็นว่าสามารถต่อยอดขึ้นไปได้ นับว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จของความพยายามพัฒนาบุคลากรกีฬาจักรยานไทยอีกก้าวหนึ่งเช่นกัน