‘นาโอมิ โอซากะ’ กับเส้นทางความสำเร็จที่ยังไม่นิ่ง

“ความไม่แน่นอน” ดูจะยังเป็นวัฏจักรอาชีพนักเทนนิสสำหรับ นาโอมิ โอซากะ นักหวดสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-เฮติที่สร้างชื่อฮือฮามาตั้งแต่ปีที่แล้ว…

ราวเดือนกันยายนที่ผ่านมา โอซากะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสสัญชาติญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์ประเภทเดี่ยวระดับแกรนด์สแลมไม่ว่าชายหรือหญิง หลังจากโชว์ฟอร์มปราบ เซเรน่า วิลเลียมส์ อดีตมือ 1 ของโลกและเต็ง 1 ของรายการ ในศึก ยูเอส โอเพ่น รอบรองชนะเลิศ

แม้ว่ากระแสข่าวเวลานั้นจะโดนกลบด้วยกรณีพิพาทระหว่างเซเรน่ากับกรรมการจนสื่อและแฟนๆ มองข้ามผลงานของโอซากะไปไม่น้อย แต่ฟอร์มการเล่นในนัดดังกล่าวก็ทำให้นักหวดสาววัย 21 ปี ได้รับการจับตามองว่าจะขึ้นมายืนหยัดในแถวหน้าของวงการได้ยาวๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจบศึกแกรนด์สแลมดังกล่าวแล้ว โอซากะไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้อีก โดยแข่งรายการถัดมาที่โตเกียว ไปแพ้ คาโรลิน่า พลิสโคว่า ในรอบชิงฉิวเฉียด ก่อนไปตกรอบรองชนะเลิศที่ปักกิ่ง

Advertisement

แต่ผลงานที่น่าผิดหวังที่สุดคือการแข่งขันรายการใหญ่ส่งท้ายปี ดับเบิลยูทีเอ ไฟนัลส์ ซึ่งโอซากะพ่ายรวด 3 นัดตกรอบแรกแบบน่าผิดหวังสุดสุด จนเกิดคำถามในหมู่สื่อและแฟนๆ ว่า หรือว่าแชมป์แกรนด์สแลมที่ฟลัชชิ่งมีโดว์สนั้นจะเป็นแค่ “ปรากฏการณ์” วูบเดียวก็วาบหายไป?

แต่นักหวดสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-เฮติไม่ปล่อยให้คนตั้งคำถามนาน เมื่อตอกย้ำความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมที่ 2 ของตัวเองในศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมผงาดขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกคนใหม่

กลายเป็นนักเทนนิสหญิงคนแรกที่ได้แชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการติดต่อกันต่อจากเซเรน่าในปี 2015 นำไปสู่ความคาดหวังของสื่อและแฟนๆ ว่า เธอจะคว้า “นาโอมิสแลม” หรือกวาดแชมป์แกรนด์สแลม 4 รายการติดต่อกันแบบข้ามปี เหมือนกับที่เซเรน่าเคยทำได้มาก่อน

Advertisement

อย่างไรก็ตาม จากที่รุ่งๆ เส้นทางอาชีพของโอซากะกลับมาสะดุดอีกครั้ง เมื่อเธอประกาศแยกทางกับโค้ชชาวเยอรมัน ซาช่า บายิน ที่ปลุกปั้นเธอจนประสบความสำเร็จ เพียง 16 วันหลังชูถ้วยออสเตรเลียน โอเพ่น

โอซากะให้เหตุผลที่เลิกจ้างบายินว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มมีปัญหามาตั้งแต่ช่วงแข่งขันที่เมลเบิร์นปาร์กแล้ว ก่อนทิ้งท้ายว่าไม่อยากยอมสละความสุขเพื่อทำงานร่วมกับคนบางคนต่อไป

พอแยกทางกับโค้ชปุ๊บ โอซากะก็มาตกรอบสองรายการ ดูไบ เทนนิส แชมเปี้ยนชิพส์ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากได้บายในรอบแรก

เธอยอมรับว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องหลังจากยกเลิกสัญญากับโค้ชชาวเยอรมัน พร้อมเผยด้วยว่าที่ผ่านมารู้สึกดดันหลายอย่าง โดยเฉพาะจากกระแสโซเชียลที่มีทั้งบวกและลบ

ข้างบวกก็คอยให้กำลังใจ แต่ข้างลบก็ออกมาในแนวการแขวะ กลั่นแกล้ง หรือ “บุลลี่” ด้วยเหตุผลต่างกันออกไป

ระหว่างแข่งที่ดูไบ โอซากะต้องปาดน้ำตาในบางจังหวะเนื่องจากรู้สึกกดดันหลายๆ อย่าง เป็นอาการเดียวกับเมื่อตอนแข่งขันศึกดับเบิลยูทีเอ ไฟนัลส์ เมื่อปลายปีที่แล้วซึ่งทำผลงานไม่ได้ดังใจ

นี่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักหวดสาวรายนี้ เนื่องจากความสำเร็จบนเวทีใหญ่สุดอย่างแกรนด์สแลมเกิดขึ้นต่อเนื่องจนนำไปสู่การขึ้นมือ 1 ของโลก กลายเป็นที่จับตามองของสื่อและแฟนกีฬาทั่วโลก

แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย ประกอบกับไม่ได้เตรียมสภาพจิตใจมาให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดในชั่วข้ามคืน จึงกลายเป็นความกดดันอันหนักอึ้งที่แสดงออกผ่านภาษากายหรือบทสัมภาษณ์ต่างๆ

เช่นหลังตกรอบที่ดูไบ โอซากะตอบสื่อว่า ต้นเหตุของการตกรอบก็เพราะเพิ่งมีปัญหาเรื่องโค้ช และหวังว่าเมื่อเวลาผ่านไป สื่อจะเลิกพูดเรื่องนี้ ตอนนี้รู้สึกเหมือนโดนทุกคนจับจ้องในทางลบเสียเป็นส่วนใหญ่

หากยังตั้งหลักไม่ได้ ก็มีแนวโน้มที่นักหวดสาวจะเสียศูนย์ต่อเนื่องในทัวร์นาเมนต์ต่อๆ ไป และคงเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าเธอไม่สามารถรักษามาตรฐานให้คงเส้นคงวาไปอีกยาวๆ

เพราะวงการสักหลาดหญิงช่วงหลังห่างหายจากมือพระกาฬที่ผูกขาดความสำเร็จแบบน่าตื่นตาตื่นใจมานานมากแล้วนั่นเอง

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image